เศรษฐกิจของจีนดูแตกต่างไปจากตอนที่เกิดโรคระบาด

เศรษฐกิจจีนในปี 2023 จะต่างออกไปจากปี 2019 อย่างสิ้นเชิงจากปัญหาของภาคอสังหาริมทรัพย์ การส่งออกลดลง และกรณีของ JD.com ที่ได้รับผลกระทบจากข้อจำกัดของสหรัฐ

แม้เดือนที่ผ่านมาทางการจีนได้คลายมาตรการล็อคดาวน์ในประเทศแล้วก็ตามแต่ในด้านนักวิเคราะห์เตือนถึงความท้าทายที่จะสามารถ Re-opening ได้อย่างเต็มรูปแบบ

อย่างไรก็ตาม นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าการฟื้นตัวของจีนน่าจะเป็นไปได้ดีกว่าคาดการณ์ก่อนหน้า แต่องค์ประกอบสนับสนุนนั้นแตกต่างจากเมื่อ 3 ปีก่อนแทบสิ้นเชิง

ก่อนนี้การเติบโตของจีนมักจะมาจากอสังหาริมทรัพย์และโครงสร้างพื้นฐาน แต่ในปัจจุบันเศรษฐกิจแบบดิจิทัลและเศรษฐกิจสีเขียวกำลังเริ่มมีสัดส่วนมากยิ่งขึ้น โดยส่วนหนึ่งมาจากการประชุมสภาแห่งชาติครั้งที่ 20 ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่มีการเน้นให้ความสำคัญเรื่องการพัฒนานวัตกรรม

ในปี 2021 และ 2022 อสังหาริมทรัพย์เป็นประเภทการลงทุนที่ใหญ่ที่สุด แต่นักวิเคราะห์ของ CICC กล่าวว่าในปีนี้ การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ลดลงประมาณ 22% จากปีที่แล้ว ขณะที่การลงทุนในภาคดิจิทัลและภาคสีเขียวเติบโตประมาณ 24% และ 14% ตามลำดับ

นอกจากนี้ CICC ยังคาดการณ์ว่าในอีก 5 ปีข้างหน้า การลงทุนสะสมในระบบเศรษฐกิจดิจิทัลคาดว่าจะเติบโตมากกว่า 7 เท่า แตะที่ 77.9 ล้านล้านหยวน (11.13 ล้านล้านดอลลาร์) ซึ่งมากกว่าการลงทุนสะสมในอสังหาริมทรัพย์ โครงสร้างพื้นฐานแบบดั้งเดิม หรือเศรษฐกิจสีเขียวที่คาดการณ์ไว้

ในปีหน้า การส่งออกสุทธิที่ลดลงคาดว่าจะลดการเติบโตลง 0.5% ตามการวิเคราะห์ของ Hui Shan หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ตลาดจีนของ Goldman Sachs ระบุว่า การส่งออกสุทธิมีส่วนสนับสนุนการเติบโตของ GDP ของจีนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยมีสัดส่วนมากถึง 1.7% ในปี 2021

แหล่งข่าว China’s economy looks different than it was going into the pandemic โดย Reuters