เศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวลงอย่างมากจากนโยบายซีโรโควิด-19 และการเปลี่ยนแปลงของปักกิ่งจากการพึ่งพาอุปสงค์ภายนอก ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าจีนจะสนับสนุนการค้าและการลงทุนทั่วโลกในอนาคตมากน้อยเพียงใด ขณะที่ นักวิเคราะห์คาดว่าการชะลอตัวในปัจจุบันจะยากที่จะหลุดพ้นมากกว่าที่จะเกิดขึ้นในช่วงต้นปี 2020
การคำนวณตามการคาดการณ์ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศแสดงให้เห็นว่าจีนมีส่วนร่วมโดยเฉลี่ยต่อปีต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลกจนถึงปี 2027 ที่ประมาณ 29% ลดลงจากหลังวิกฤตการเงินโลกในปี 2007 ที่เกือบ 40%
Raymond Yeung หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ ANZ สำหรับ Greater China กล่าวว่าเมื่อเร็วๆ นี้ นโยบายเศรษฐกิจของปักกิ่งได้เปลี่ยนไปใช้วิธีแก้ปัญหาและการปฏิรูปภายในมากกว่าในอดีตที่เน้นไปที่การมีส่วนร่วมกับโลก
การเติบโตของการส่งออกของจีนชะลอตัวลงเหลือตัวเลขหลักเดียวในเดือนเมษายน ซึ่งอ่อนแอที่สุดนับตั้งแต่เริ่มมีการระบาดใหญ่ ขณะที่การนำเข้าแทบไม่เปลี่ยนแปลง
Peiqian Liu นักเศรษฐศาสตร์ชาวจีนที่ NatWest Markets ในสิงคโปร์กล่าวว่าเมื่อต้องเผชิญกับทางเลือก ปักกิ่งน่าจะจัดลำดับความสำคัญของควบคุมโรคระบาดมาก่อนและหนี้สาธารณะที่กำลังเกินเป้าหมายการเติบโตปี 2022 ที่ 5.5%
อย่างไรก็ตาม สำหรับตอนนี้ ธุรกิจต่างชาติในจีนเริ่มมีเสียงพูดเกี่ยวกับสภาพการดำเนินงานที่แย่ลง ภายใต้นโยบายซีโรโควิด ขณะที่ การล็อคดาวน์เมื่อเร็วๆ นี้ ส่งผลกระทบไม่เพียงแค่การผลิตส่วนใหญ่ในประเทศ แต่ยังสั่นสะเทือนถึงอุปทานทั่วโลก ควบคู่ไปกับการเพิ่มมาตรการควบคุมการเคลื่อนย้ายผู้คนเข้าและออกนอกประเทศเป็นสองเท่า ขณะที่ประเทศอื่นๆ ทั่วโลกกำลังผ่อนคลายลง
หอการค้าอเมริกันในจีนเตือนเมื่อวันอังคารว่าการควบคุมโควิด-19 ที่เข้มงวดจะขัดขวางการลงทุนจากต่างประเทศในประเทศเป็นเวลาหลายปี การสำรวจจากหอการค้าอุตสาหกรรมและการค้าของเยอรมนี (DIHK) เมื่อสัปดาห์ที่แล้วพบว่า 47% ของบริษัทเยอรมันในจีนกำลังทบทวนกิจกรรมของพวกเขาและหนึ่งในแปดบริษัทยังพิจารณาที่จะเลิกการลงทุน
แหล่งข่าว China’s zero-COVID policy dashes global hopes for quick economic return to normal โดย Reuters
COMMENTS