SEARCH

ดาวโจนส์ปิดต่ำกว่า 500 จุด Nasdaq ร่วง 3% หลังเฟดส่งสัญญาณเหยี่ยวต่อ

ค่าใช้จ่ายและแนวโน้มราคาที่ไม่แน่นอนกดดันผลิตผลน้ำมันของสหรัฐ
ดอลลาร์ออสเตรเลีย ดอลลาร์นิวซีแลนด์ พุ่งสูงจากสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับสูงขึ้น
กกพ. คาดค่าไฟงวด ม.ค.-เม.ย. 2566 พุ่งเตะ 5.37-6.03 บาท

หุ้นร่วงหลังเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟดระบุว่าเงินเฟ้อนยังสูงเกินไปพร้อมแย้มว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยนโยบายมากขึ้นอีก

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลง 505.44 จุด หรือ 1.55% ปิดที่ 32,147.76 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 2.5% ปิดที่ 3,759.69 จุด ขณะที่ Nasdaq Composite พุ่งขึ้น 3.36% ปิดที่ 10,524.80 จุด

เฟดขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 75 จุดในการประชุมนโยบายเดือนพฤศจิกายน โดยการแถลงข่าวหลังการประชุมพาวเวลล์ยังระบุว่าภารกิจต่อสู้กับเงินเฟ้อนั้นยังไม่จบ “จากข้อมูลชุดล่าสุดที่เราเห็นว่าระดับอัตราดอกเบี้ยจะสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้า” พาวเวลล์เสริมว่า “ยังเร็วเกินไป” ที่จะพูดถึงการแตะเบรก

Jack McIntyre ผู้จัดการพอร์ตการลงทุนของ Brandywine Global กล่าวว่า “ความเห็นของประธานเฟดออกมาค่อนข้างไม่ดี โดยส่งสัญญาณว่ายังต้องต่อสู้กับเงินเฟ้อต่อ และอัตราดอกเบี้ยจะสูงกว่าคาดการณ์ที่ให้ไว้ก่อนนี้ พร้อมดับฝันสำหรับการแตะเบรก”

หุ้นกลุ่มเทคและสินค้าอุปโภคทำงานผลย่ำแย่ที่สุด โดยดัชนี S&P 500 ร่วงมากกว่า 3% จากการร่วงลงของ Amazon, Netflix และ Meta Platforms เกือบ 5% ต่อรายการ ขณะที่ Tesla และ Salesforce ร่วงลง 5.6% และ 6.1% ตามลำดับ

การตัดสินใจด้านอัตราดอกเบี้ยของเฟดเกิดขึ้นหลังจากการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชนในเดือนตุลาคมที่ออกมาอย่างแข็งแกร่ง หนุนแนวคิดที่ว่าตลาดแรงงานยังยืดหยุดแม้มีการขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย

ดัชนีดาวโจนส์กำลังทำลายสถิติในเดือนตุลาคม โดยพุ่งขึ้นเกือบ 14% แบบรอบเดือน ขณะที่ดัชนี S&P 500 และ Nasdaq เพิ่มขึ้นราว 8% และ 3.9% ตามลำดับ หลังร่วงลง 2 รอบเดือนต่อเนื่อง

แหล่งข่าว Dow closes 500 points lower, Nasdaq sheds 3% as Fed Chair Powell signals intent to continue hiking rates โดย CNBC

COMMENTS

WORDPRESS: 0
DISQUS: 0