รายงานรายได้หนุนวอลล์สตรีท แต่ตลาดเริ่มกังวลแนวโน้มการเติบโต

หุ้นสหรัฐพุ่งขึ้นเมื่อวันอังคารจากรายงานผลประกอบการแข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์ไว้ Nasdaq เป็นผู้นำรายงานเหล่านี้ช่วยให้นักลงทุนสลัดคำเตือนจากนักพยากรณ์ทั่วโลกเกี่ยวกับการชะลอตัวของการเติบโตทางเศรษฐกิจ ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาคอื่นๆ อย่างพันธบัตรและน้ำมัน จากบริษัท 49 แห่งในดัชนี S&P 500 ที่รายงานผลประกอบการรายไตรมาส ณ วันอังคาร เกือบ 80% มีกำไรที่สูงกว่าประมาณการตามข้อมูลของ Refinitiv

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 1.45%, S&P 500 เพิ่มขึ้น 1.61% และ Nasdaq Composite เพิ่มขึ้น 2.15% ดัชนีหุ้นโลก MSCI ซึ่งติดตามหุ้นใน 45 ประเทศ เพิ่มขึ้น 0.81%

การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเกิดขึ้นแม้ในขณะที่หน่วยงานทางเศรษฐกิจทั่วโลกเริ่มส่งคำเตือนเกี่ยวกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ ทั้งธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (International Monetary Fund) ได้ลดทอนแนวโน้มเศรษฐกิจโลกในปี 2565 ลงเกือบร้อยละเต็ม โดยอ้างถึงความปั่นป่วนที่เล็ดลอดออกมาจากรัสเซียที่บุกยูเครนและการต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อทั่วโลก

เฟดมีแนวโน้มจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 50 จุดเมื่อการประชุมในเดือนหน้า และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยพื้นฐาน 75 จุดยังไม่ถูกตัดออก เนื่องจากเจ้าหน้าที่เฟดพยายามลดอัตราเงินเฟ้อ เจมส์ บุลลาร์ด ประธานเฟดแห่งเซนต์หลุยส์ ย้ำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็น 3.5% ภายในสิ้นปีนี้ในวันจันทร์

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีอยู่ที่ 2.942% ลดลงเล็กน้อยหลังจากแตะระดับสูงสุดในรอบสามปี

ดัชนีค่าเงินดอลลาร์พุ่งขึ้นเหนือ 101 เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่มีนาคม 2020 เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นสูงสุดในรอบ 20 ปีเมื่อเทียบกับเงินเยน และทดสอบค่าสูงสุดในรอบสองปีของเงินยูโร ดัชนีล่าสุดขึ้น 0.2% เป็น 100.986

แหล่งข่าว Earnings boost Wall Street while growth fears sink oil โดย Reuters