เฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ย พร้อมส่งสัญญาณการต่อสู้เชิงรุกกับเงินเฟ้อ

เฟดประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2018 พร้อมวางแผนเชิงรุกเพื่อผลักดันดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับที่จำกัดในปีหน้า โดยเริ่มจากการต่อสู้กับการระบาดใหญ่ของโคโรนาไวรัส ไปจนถึงการรับมือกับความเสี่ยงทางเศรษฐกิจที่เกิดจากเงินเฟ้อท่ามกลางภาวะสงครามในยูเครน คณะกรรมการตลาดกลางแห่งสหพันธรัฐของเฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.25% พร้อมคาดการณ์ว่าจะมีการปรับขึ้นระหว่าง 1.75% ถึง 2% ภายในสิ้นปี 2022 และ 2.8% ในปีหน้า

ในด้านเจอโรมพาวเวลล์เชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจแข็งแกร่งพอที่จะต้านทานการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและรักษาการจ้างงานที่แข็งแกร่งในปัจจุบัน และการเติบโตของค่าจ้างในปัจจุบันเฟดจึงต้องจำกัดผลกระทบของการเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อต่อภาคครัวเรือน อย่างไรก็ตาม อัตราเงินเฟ้อก็คาดว่าจะยังคงสูงกว่าเป้าหมาย 2% ของเฟดจนถึงปี 2024 และพาวเวลล์กล่าวว่าเจ้าหน้าที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างจริงจังหากไม่เห็นพัฒนาการที่ดีขึ้น

ผู้กำหนดนโยบายของเฟดยังได้ลดประมาณการการเติบโตของ GDP ของประเทศสำหรับปี 2022 เป็น 2.8% จาก 4% ที่เคยคาดการณ์ไว้ในเดือนธันวาคมจากความเสี่ยงใหม่ที่เศรษฐกิจโลกกำลังเผชิญอยู่

ดัชนีหุ้นสหรัฐรายใหญ่ปรับตัวขึ้นชั่วครู่หลังจากแถลงการณ์และการคาดการณ์ก่อนที่จะฟื้นตัวเพื่อปิดที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 2.2% ในวันเดียวกัน

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 2 ปีเพิ่มขึ้นเป็น 2.002% ขณะที่ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีอยู่ที่ 2.246% ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2019 ก่อนจะร่วงลงมาที่ 1.948% และ 2.188% ตามลำดับ

เฟดยังคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ที่ 4.3% ในปีนี้ โดยจะลดลงมาอยู่ที่ 2.7% ในปี 2023 และ 2.3% ในปี 2024 อัตราการว่างงานจะลดลงเหลือ 3.5% ในปีนี้และคงระดับนั้นในปีหน้าแต่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 3.6% ในปี 2024

แถลงการณ์ใหม่ยังเผยว่าเฟดจะเริ่มลดงบดุลเกือบ 9 ล้านล้านดอลลาร์ “ในการประชุมที่จะมาถึง” พาวเวลล์บอกกับผู้สื่อข่าวว่าผู้กำหนดนโยบาย “มีความคืบหน้าอย่างยอดเยี่ยมและสามารถสรุปรายละเอียดในการประชุมนโยบายครั้งต่อไปในเดือนพฤษภาคม

แหล่งข่าว Fed hikes interest rates, signals aggressive fight to curb inflation โดย Reuters