เยนร่วงลงจากนโยบายการเงินที่เปลี่ยนไป

การล่มสลายของเงินเยนยังเกิดขึ้นต่อเนื่องโดยไม่มีแนวโน้มพลิกกลับ การเพิ่มขึ้นของเงินเยนมักเชื่อมโยงกับการหนีจากสินทรัพย์เสี่ยง และการอ่อนค่าลงเป็นสัญญาณของความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงที่เพิ่มขึ้น แต่นิยามเหล่านี้แทบใช้ไม่ได้กับสถานการณ์ในตอนนี้ โดยเราอาจเห็นการเริ่มต้นของการประเมินมูลใหม่ที่มีนัยสำคัญจากจุดยืนของสถาบันการเงินของญี่ปุ่น
ซึ่งในกรณีที่เลวร้ายที่สุดอาจกลายเป็นวิกฤตหนี้ในประเทศในท้ายที่สุด และเป็นหายนะสำหรับตลาดการเงินมากกว่าวิกฤตหนี้ยูโรโซนเมื่อ 10 ปีที่แล้ว

จุดเริ่มต้นของการอ่อนค่าของเงินเยนอยู่ที่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ ขณะนั้นหุ้นเป็นที่ต้องการของแหล่งเงินทุนเพื่อรักษากำลังซื้อของการลงทุน การไหลเข้าของหุ้นถูกขัดจังหวะโดยสงครามในยูเครน แต่เร่งตัวขึ้นในช่วงสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ธนาคารกลางในหลายประเทศเริ่มตอบสนองต่อเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น

ตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ USDJPY ได้เพิ่มขึ้น 6.5% และการเพิ่มขึ้นเกือบทั้งหมดเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 7 มีนาคม ส่งผลให้ทั้งคู่กลับสู่ระดับที่เห็นล่าสุดเมื่อปลายปี 2015 การปรับตัวขึ้นนี้กำลังเกิดขึ้นในดอลลาร์ออสเตรเลียและดอลลาร์นิวซีแลนด์ต่อเงินเยนซึ่งเพิ่มขึ้น กว่า 12% ตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์

ในด้านการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ธนาคารกลางออสเตรเลียและนิวซีแลนด์เตรียมขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะที่ สถานการณ์ในญี่ปุ่นดูน่าวิตกมากขึ้น เนื่องจากอัตราส่วนหนี้สินต่อ GDP ของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 77% เป็น 170%

ในทศวรรษที่ผ่านมา ญี่ปุ่นได้กลายเป็นผู้นำเข้าสินค้าโภคภัณฑ์สุทธิเนื่องจากการพึ่งพาพลังงานและโลหะที่เพิ่มขึ้น และการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นจากประเทศจีนและเกาหลี อัตราแลกเปลี่ยนจะมีบทบาทในการรักษาเสถียรภาพการค้าในสถานการณ์นี้

การปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเป็นเรื่องยากสำหรับญี่ปุ่นเนื่องจากการขายสกุลเงินจะหมายถึงการขายพันธบัตรในสกุลเงินนั้นโดยพฤตินัย ภายใต้สถานการณ์เหล่านี้ ธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นต้องยอมรับอย่างเปิดเผยว่าจะให้เงินสนับสนุนแก่รัฐบาล (กล่าวคือเพิ่มการซื้อแม้จะมีภาวะเงินเฟ้อ) หรือลด QE ซึ่งตัวเลือกแรกจะทำให้เกิดการประเมินค่าเงินเยนใหม่ ตัวเลือกที่สองจะทำให้เกิดจัดการกับเศรษฐกิจและการเงินโดยการตั้งคำถามว่าญี่ปุ่นสามารถชำระหนี้ได้หรือไม่

แหล่งข่าว Falling Japanese yen as canary of a changing world order โดย The FxPro Analyst Team