SEARCH

รอยเตอร์สโพลชี้เฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 50 จุด แต่ดันแนวโน้มดอกเบี้นนโยบายสูงขึ้น

G20 เตรียมหารือนโยบายเกี่ยวกับสินทรัพย์คริปโต
FOMO กำลังเข้ามามีบทบาทต่อตลาดคริปโต
Morning bid: สัญญาณเงินเฟ้อออกมาแบบผสม

การสำรวจของรอยเตอรนักเศรษฐศาสตร์ระบุว่า ธนาคารสหรัฐจะขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 50 จุดในการประชุมนโนบายเดือนธันวาคม โดยอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่สูงและกินระยะเวลานานนั้นเป็นความเสี่ยงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดต่อแนวโน้มเศรษฐกิจขณะนี้

อย่างไรก็ตาม การคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อในปีหน้าสูงกว่าคาดการณ์เมื่อเดือนที่แล้วเล็กน้อยสะท้อนว่าวัฎจักรที่เข้มงวดนั้นยังไม่จบ นักเศรษฐศาสตร์ 78 คนจาก 84 คนเชื่อว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายหลังการประชุมเดือนธันวาคมจะอยู่ที่ระหว่าง 4.25%-4.50%

อัตราดอกเบี้ยสะสมของเฟดกำลังเพิ่มขึ้นจากระดับ 0 เมื่อเดือนมีนาคมจากการขึ้นดอกเบี้ยอย่างรุนแรงที่สุดเท่าที่เคยมีมาโดยคาดว่าจะแตะระดับสูงสุดระหว่างช่วง 4.75% -5.00% ในต้นปีหน้า

“ในขณะที่ตลาดมุ่งเน้นไปที่อัตราเงินเฟ้อสูงสุด แนวโน้มเงินเฟ้อพื้นฐานยังคงอยู่ ซึ่งอาจบังคับให้เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเกินระดับที่คาดการณ์ไว้ในปัจจุบัน” Philip Marey นักยุทธศาสตร์อาวุโสของ Rabobank กล่าว

โดยนักเศรษฐศาสตร์ 18 รายจาก 29 รายกล่าวว่าความเสี่ยงที่มากขึ้นคือเงินเฟ้อจะขึ้นสูงมากกว่าที่คาดไว้ในช่วง 6 เดือนข้างหน้า “เราไม่เห็นหลักฐานที่ชัดเจนใดๆ ในรายงานที่ว่าอัตราเงินเฟ้อจะชะลอตัวลงอย่างน่าเชื่อไปถึงเป้าหมาย 2%” ระบุ Andrew Hollenhorst หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของสหรัฐอเมริกาที่ Citigroup

นักเศรษฐศาสตร์ 22 รายจาก 30 รายระบุว่าภาวะถดถอยจะไม่ลึกมาก แต่คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะเติบโตเพียง 0.4% ในปีหน้า ทั้งนี้ ความกังวลเกี่ยวกับภาวะถดถอยกำลังทำให้หลายบริษัทเลิกจ้างพนักงานออกหลายพันคนทั่วประเทศ

อัตราว่างงานคาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน 3.7% เป็น 4.6% ภายในสิ้นปีหน้า โดยสูงสุดที่คาดการณ์ไว้ที่ 5.9% และเฉลี่ย 4.8% ในปี 2024

แหล่งข่าว Fed to lift rates by 50 basis points, but peak policy rate may be higher โดย Reuters

COMMENTS

WORDPRESS: 0
DISQUS: 0