ธนาคารกลางสหรัฐจะเปิดเผยผลการตรวจสอบดำเนินงานของธนาคารในวันพฤหัสบดีนี้ภายใต้การ “ทดสอบความเครียด” ที่เกิดขึ้นหลังจากวิกฤตการณ์ทางการเงินในปี 2550-2552
ผลลัพธ์เป็นตัวกำหนดว่าธนาคารเงินทุนจะต้องมีสุขภาพที่ดีเท่าใด และจะสามารถคืนทุนให้ผู้ถือหุ้นได้มากเพียงใดผ่านการซื้อคืนหุ้นและเงินปันผล อย่างไรก็ตาม ธนาคารไม่ได้รับอนุญาตให้ประกาศแผนการจ่ายเงินปันผลและการซื้อคืนจนถึงวันจันทร์ที่ 27 มิถุนายน ถัดไป
ผู้ให้กู้รายใหญ่ที่สุดของประเทศโดยเฉพาะ JPMorgan Chase & Co, Citigroup Inc, Wells Fargo & Co, Bank of America Corp, Goldman Sachs Group Inc และ Morgan Stanley ถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดจากตลาด
เฟดได้วางแผนสถานการณ์ในปีนี้ก่อนรัสเซียจะบุกยูเครนและแนวโน้มเงินเฟ้อที่รุนแรงในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม การทดสอบปี 2022 นั้นคาดว่าจะยากขึ้นกว่าปีที่แล้ว เนื่องจากพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่แท้จริงนั้นดีกว่า นั่นหมายความว่าอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและขนาดของเศรษฐกิจที่ลดลง
ตัวอย่างเช่น การทดสอบความเครียดในปี 2021 คาดการณ์ว่าอัตราการว่างงานจะเพิ่มขึ้น 4% ภายใต้สถานการณ์ที่ “ไม่พึงประสงค์อย่างรุนแรง” ในปี 2022 อยู่ที่ 5.75% ซึ่งมาจากการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในปีที่ผ่านมา ด้วยเหตุนี้ นักวิเคราะห์จึงคาดว่าธนาคารจะได้รับคำสั่งให้จัดสรรเงินทุนไว้มากกว่าในปี 2021 เล็กน้อยเพื่อรองรับการเติบโตที่คาดว่าจะลดลงจากคาดการณ์
การทดสอบในปีนี้ยังรวมถึง “ความเครียดที่เพิ่มขึ้น” ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ ซึ่งได้รับผลกระทบจากการระบาดใหญ่และตลาดตราสารหนี้ของบริษัท หน่วยงานเฝ้าระวังทั่วโลก ซึ่งรวมถึงกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ได้เตือนถึงหนี้องค์กรที่มีความเสี่ยงในระดับสูง เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นทั่วโลก
ในปี 2022 ธนาคารสหรัฐ 34 แห่งที่ตรวจสอบโดยเฟดซึ่งมีสินทรัพย์มากกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์จะผ่านการทดสอบความเครียด เมื่อเทียบกับผู้ให้กู้ 23 รายในปีที่แล้ว นั่นเป็นเพราะเฟดใช้มาตรฐานใหม่ในปี 2020 ซึ่งกำหนดว่าธนาคารที่มีสินทรัพย์น้อยกว่า 250,000 ล้านดอลลาร์จะต้องทำการทดสอบทุกปีเว้นปี นั่นหมายความว่าธนาคารระดับภูมิภาคขนาดใหญ่ เช่น Ally Financial Inc และ Fifth Third Bancorp จะต้องเข้ารับการตรวจสอบในปีนี้หลังจากผ่านไปปีที่ผ่านมา
แหล่งข่าว What’s new with the Fed’s bank stress tests in 2022 โดย Reuters
COMMENTS