หุ้นเอเชียอ่อนตัว หลังนักลงทุนจับตาสถานการณ์ในสหรัฐ

หุ้นเอเชียอ่อนตัว ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานเงินเฟ้อในสหรัฐที่จะออกมาในสัปดาห์นี้และผลการเลือกตั้งกลางเทอมที่จะมีผลต่อนโยบายอื่นๆ ในอนาคต

ดัชนี MSCI หุ้นเอเชียแปซิฟิกยกเว้นญี่ปุ่นสูงขึ้น 0.33% ขณะที่ Nikkei ลดลง 0.16% และดัชนีหุ้นออสเตรเลียเพิ่มขึ้น 0.58%

ฟิวเจอร์สหุ้นยุโรปมีแนวโน้มร่วงลง โดยฟิวเจอร์ส Eurostoxx 50 ลดลง 0.37% ฟิวเจอร์ส DAX ของเยอรมนีลดลง 0.33% และฟิวเจอร์ส FTSE ลดลง 0.34%

Quincy Krosby หัวหน้านักยุทธศาสตร์ระดับโลกของ LPL กล่าวว่า “ต้องใช้เวลาพอสมควรเพื่อดูว่าพรรคไหนจะมีชัย อย่างไรก็ตามหากการเลือกตั้งจบลงแบบ split congress อาจเป็นกาจจุดชนวนของการแรลลี่ของหุ้นและกดดันค่าเงินดอลลาร์

ในจีน ตลาดหุ้นร่วงลง 0.35% โดยดัชนี Hang Seng ลดลง 1.5% หลังเผยดัชนีราคาผู้ผลิตลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2020 ตอกย้ำอุปสงค์ภายในประเทศที่ชะลอตัวท่ามกลางการควบคุมโรคระบาด

Robert Carnell หัวหน้าฝ่ายวิจัยระดับภูมิภาคของ ING กล่าวว่า “แม้จะมีกระแสเชิงบวกเกี่ยวกับการคลายโควิดแต่ดูเหมือนว่าอาจมีการปิดเมืองมากขึ้น”

ขณะเดียวกันคริปโตยังคงผันผวนในวันนี้ จากความกังเวลเกี่ยวกับปัญหาสภาพคล่องของ FTX ซึ่งขณะนี้ Binace ได้ประกาศเข้าซื้อกิจการแล้ว Bitcoin ลดลง 2% ในวันพุธ หลังจากร่วงลง 10% ในวันก่อน

นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่ารายงานเงินเฟ้อของสหรัฐแบบรายเดือนและรายปีจะลดลงมาอยู่ที่ 0.5% และ 6.5% ตามลำดับ ขณะที่ ตลาดฟิวเจอร์สกำลังวางโอกาส 67% สำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 50 จุดในเดือนธันวาคม ขณะที่การขึ้นดอกเบี้ย 75 จุดอยู่ที่ 33%

ดอลลาร์ซื้อขายล่าสุดที่ 1.0071 ดอลลาร์ต่อยูโร และอยู่ที่ 145.66 เยนต่อดอลลาร์

น้ำมันลงในวันพุธหลังสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้นเหนือคาดการณ์และการแพร่ระบาดในจีน น้ำมันดิบร่วง 0.36% มาอยู่ที่ 88.59 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และเบรนต์อยู่ที่ 95.16 ดอลลาร์ ลดลง 0.21%

แหล่งข่าว Asia stocks subdued as investors eye U.S. midterm, inflation data โดย Reuters