หุ้นสหรัฐปิดในแดนลบในวันพฤหัสบดีจาการเทขายออกในวงกว้าง เนื่องจากนักลงทุนเชื่อว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไม่เพียงพอที่จะควบคุมเงินเฟ้อ ดัชนี Nasdaq ลดลงในรอบหนึ่งวันที่มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2020 และปิดต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2020 เช่นเดียวกับดัชนีดาวโจนส์ลดลงในรอบหนึ่งวันมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2020
ยักษ์ใหญ่ด้านเทคต่างร่วงยกแผงตั้งแต่ Alphabet, Apple, Microsoft, Meta, Tesla Inc และ Amazon.com ต่างลดลงระหว่าง 4.3% ถึง 8.3%
Megan Horneman หัวหน้าเจ้าหน้าที่การลงทุนของ Verdence Capital Advisors กล่าวว่า “นักลงทุนไม่ได้ดูปัจจัยพื้นฐาน (เช่น รายได้) ในขณะนี้ และนี่เป็นปัญหาด้านความเชื่อมั่นมากกว่า”
เฟดขึ้นดอกเบี้ย 50 จุดพื้นฐาน แต่กลับปิดประตูสำหรับการขึ้น 75 จุดพื้นฐานในการประชุมครั้งต่อไป ความกังวลเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวนโยบายของเฟด ผลกำไรที่หลากหลายจากบริษัทขนาดใหญ่บางแห่ง ความขัดแย้งในยูเครน และการล็อกดาวน์ในจีน ได้ส่งผลกระทบต่อวอลล์สตรีทตั้งแต่ช่วงที่ผ่านมา และยังบดบังรายงานผลประกอบการรายไตรมาสที่ดีเกินคาด
ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ลดลง 1,063.09 จุดหรือ 3.12% สู่ 32,997.97, S&P 500 ลดลง 153.3 จุดหรือ 3.56% สู่ 4,146.87 และ Nasdaq Composite ลดลง 647.17 จุดหรือ 4.99% กลับไปที่ 12,317.69
Horneman แห่ง Verdence Capital Advisors กล่าวว่า “ตลาดกำลังใช้วิจารณญาณล้วนๆ ทุกคนกำลังคาดการณ์ว่านี่จะเป็นช่วงเวลาที่ท้าทายสำหรับผู้บริโภคในอีกหลายๆ ไตรมาสข้างหน้า”
แหล่งข่าว Wall Street tumbles as investors fret over bigger Fed rate hikes โดย Reuters
COMMENTS