เจอโรม พาวเวลล์ ไม่ค่อยมั่นใจในแนวทางการกระชับนโยบายในอนาคต ดังนั้นตลาดที่เคยมองโลกในแง่ดีจึงมองว่าเป็นสัญญาณว่าธนาคารกลางสหรัฐจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยช้าลง โดยชี้ไปที่ถ้อยแถลงของพาวเวลล์ถึงการเคลื่อนไหวที่ “ใหญ่ผิดปกติ” ในการประชุมครั้งต่อไป แต่ตลาดเลือกที่จะใช้มุมมองเดิม โดยลดการ price in การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในสิ้นปีให้เหลือน้อยกว่า 100 bps และปล่อยให้ดัชนีหุ้น Nasdaq ปิดบวกมากกว่า 4% ในวันพุธ
เมื่อผ่านไปสิบสองชั่วโมง อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีเพิ่มขึ้น 6 bps ขณะที่ฟิวเจอร์สของหุ้นวอลล์สตรีทอยู่ในแดนลบ
สิ่งที่ชัดเจนคือเฟด เช่นเดียวกับธนาคารกลางยุโรป จะไม่เสนอแนวทางล่วงหน้าที่ชัดเจนของตลาดอีกต่อไปเพื่อให้สอดคล้องต่อชุดข้อมูลที่ออกมาใหม่
ดัชนี PMI ที่อ่อนแอในเดือนกรกฎาคมเน้นย้ำถึงความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย ขณะที่ข้อมูลเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย ความเชื่อมั่นทางธุรกิจ และความเชื่อมั่นของผู้บริโภค กำลังทำให้เกิดคาดการณ์ว่า GDP ไตรมาส 2 จะหดตัวและเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเทคนิค
และในยุโรป ให้จับตาดูอัตราเงินเฟ้อของเยอรมนีในเดือนกรกฎาคม รวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในยูโรโซน เห็นได้ชัดว่าผู้บริโภครัดเข็มขัดเมื่อเผชิญกับราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น ดัชนีความเชื่อมั่นของกลุ่มอาจแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
ดัชนีหุ้น STOXX ทั่วยุโรปกำลังมองหาแรงหนุนจากรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ซึ่งรวมถึงผลกำไรของ Shell ที่ 11.5 พันล้านดอลลาร์และสถิติครึ่งปีแรกจากผู้ผลิตรถยนต์ Stellantis นอกจากนี้ บริษัทอื่นๆ เช่น Nestle และ Volkswagen ระบุถึงแรงกดดันด้านต้นทุนแต่มองในแง่ดีต่อผลประกอบการทั้งปี
แหล่งข่าว Morning Bid: Look on the bright side โดย Reuters
COMMENTS