SEARCH

น้ำมันร่วงจากการขายทำกำไร ตลาดยังจับตาสถานการณ์ในยูเครน

น้ำมันขึ้น 2% จากการเบิกจ่ายน้ำมันดิบของสหรัฐและดอลลาร์ที่อ่อนค่า
เฟดจะทุบตลาดหรือหนุนตลาด?
หุ้นโลกปรับขึ้นแต่ยังใกล้จุดต่ำสุดในรอบ 6 สัปดาห์

น้ำมันปรับตัวลดลงในวันอังคารเนื่องจากนักลงทุนขายทำกำไร แต่ยังถูกจำกัดจากความกลัวว่ารัสเซียอาจบุกยูเครนและกระทบต่ออุปทาน

น้ำมันดิบเบรนท์อยู่ที่ 96.19 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง 29 เซนต์หรือ 0.3% หลังจากเพิ่มขึ้น 2.04 ดอลลาร์ในวันจันทร์ น้ำมันดิบ WTI ของสหรัฐร่วงลง 36 เซนต์หรือ 0.4% ปิดที่ 95.10 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากขึ้น 2.36 ดอลลาร์ในวันก่อนหน้า ทั้งนี้ ดัชนีอ้างอิงทั้งสองแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2014 ในวันจันทร์ โดยเบรนต์แตะ 96.78 ดอลลาร์ และ WTI แตะ 95.82 ดอลลาร์

ความกลัวว่ารัสเซียอาจบุกยูเครน ส่งผลให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นแตะ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับที่ไม่เคยมีมาตั้งแต่ปี 2557 ฮิโรยูกิ คิคุกาวะ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายวิจัยของบริษัทหลักทรัพย์นิสสัน กล่าวว่า “นักลงทุนต่างกำไรจากการแรลลี่เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ทั้งนี้ “ตลาดน้ำมันอาจมีการปรับฐานที่แท้จริง หากข้อตกลงนิวเคลียร์ระหว่างอิหร่านกับสหรัฐฯ สำเร็จ หรือตลาดหุ้นทั่วโลกอาจร่วงลงอีก ท่ามกลางความกังวลเรื่องเงินเฟ้อและนโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้นของธนาคารกลาง” ขณะที่ นักลงทุนต่างจับตาดูการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ และอิหร่าน รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านกล่าวว่า อิหร่าน “กำลังรีบ” ที่จะบรรลุข้อตกลงอย่างเร็วที่สุด

ตลาดหุ้นทั่วโลกร่วงลงในวันจันทร์ จากคำเตือนของสหรัฐฯ ว่ารัสเซียอาจบุกยูเครนในไม่ช้า โดยองค์กรสื่อตะวันตกหลายแห่งอ้างคำพูดของสหรัฐฯ และเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ที่อ้างถึงความพร้อมของกองทัพรัสเซียพร้อมสำหรับการโจมตี

ขณะเดียวกัน Fatih Birol หัวหน้าสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) ได้เรียกร้องให้ OPEC+ เร่งการผลิตให้ได้ตามโควตาการผลิต โดย JP Morgan Global Equity Research ชี้ราคาน้ำมันอาจแตะ 125 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในช่วงไตรมาสที่สองของปีนี้หากการผลิตของ OPEC+ ยังไม่เป็นไปตามโควต้า กอปรกับความกังวลด้านกำลังการผลิตน้ำมันสำรองมีแนวโน้มทำให้ตลาดน้ำมันตึงตัว

แหล่งข่าว Oil falls on profit-taking, all eyes on Russia, Ukraine โดย Reuters

COMMENTS

WORDPRESS: 0
DISQUS: 0