น้ำมันพุ่งขึ้นจากแนวโน้มอุปสงค์ทั่วโลกที่แข็งแกร่ง

น้ำมันพุ่งขึ้นในช่วงเช้าของวันจันทร์เนื่องจากกลุ่มโอเปกยังคงคาดการณ์การเติบโตของอุปสงค์เชื้อเพลิงทั่วโลก ชดเชยความกังวลเกี่ยวกับการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด หลังสหรัฐเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่เหนือคาดการณ์ของตลาด

สัญญาฟิวเจอร์สน้ำมันดิบเบรนต์เพิ่มขึ้น 3 เซนต์เป็น 93.20 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากลดลง 0.9% ในวันอังคาร สัญญาฟิวเจอร์สน้ำมันดิบ WTI ของสหรัฐอยู่ที่ 87.41 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 10 เซนต์หรือ 0.1%

OPEC เน้นย้ำถึงแนวโน้มของอุปสงค์น้ำมันทั่วโลกสำหรับปี 2022 และ 2023 โดยอ้างถึงสัญญาณเชิงบวกของเศรษฐกิจแม้มีเงินเฟ้อก็ตาม กลุ่มฯ ออกคาดการณ์ว่าอุปสงค์น้ำมันจะเพิ่มขึ้น 3.1 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2022 และ 2.7 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2023

“ราคาน้ำมันที่เคลื่อนไหวได้อย่างยืดหยุ่นชี้ให้เห็นว่าปัญหาด้านอุปทานที่ไม่เพียงพอยังคงเป็นปัญหาหลักในตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ OPEC ยังคงคาดการณ์เชิงบวกไว้” ทีน่า เต็ง นักวิเคราะห์จาก CMC Markets กล่าว

ราคาน้ำมันยังได้รับการสนับสนุนจากรายงานที่รัฐบาลสหรัฐกำลังพิจารณาเพิ่มปริมาณน้ำมันสำรองเชิงกลยุทธ์ ร่วมกับความหวังในการฟื้นฟูข้อตกลงนิวเคลียร์ที่เริ่มลดลง นักวิเคราะห์ของ ANZ Research กล่าว

อย่างไรก็ตาม ข่าวเงินเฟ้อของสหรัฐที่ร้อนแรงเกิดคาดนั้นยังฉุดรั้งราคาน้ำมันอยู่ เพราทำลายความคาดหวังที่ว่าเฟดจะผ่อนคลายเชิงนโยบายในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ขณะที่ในจีนซึ่งทางการยังคงนโยบายซีโรโควิดอย่างต่อเนื่องซึ่งก็ทำลายแนวโน้มอุปสงค์น้ำมันเช่นเดียวกัน

เอ็ดเวิร์ด โมยา นักวิเคราะห์ตลาดอาวุโสของ OANDA กล่าวว่า “นโยบายของจีนยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ราคาน้ำมันก็จะไม่สามารถฟื้นตัวได้มาก” เอ็ดเวิร์ด โมยา นักวิเคราะห์ตลาดอาวุโสของ OANDA กล่าว “ขณะที่สหรัฐเป็นตัวแทนเชิงสัญลักษณ์ในการอุปโภคน้ำมันรายใหญ่ ซึ่งหากอุปสงค์ที่นั่นลดลง น้ำมันก็อาจกลับสู่ช่วงขาลงอีก”

ในด้านอุปทาน สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้นประมาณ 6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 9 กันยายน ตามแหล่งข่าวในตลาดที่อ้างถึงตัวเลขของ API ที่ออกมาเมื่อวันพุธ ขณะที่ทางการสหรัฐจะเผยตัวเลขสต็อกในเวลา 10:30 น. EDT (14.30 GMT) ในวันพุธ

แหล่งข่าว Oil prices creep higher on robust global demand outlook โดย Reuters