ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นมากกว่า 2 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในวันพุธที่ผ่านมา (22/12/2022) หลังสหรัฐรายงานสต็อกน้ำมันดิบลดลงเหนือคาดการณ์ อย่างไรก็ดี การเพิ่มขึ้นของราคายังถูกจำกัดด้วยพายุหิมะที่คาดว่าจะกระทบการเดินทางในประเทศ
สัญญาฟิวเจอร์สน้ำมันดิบเบรนต์สำหรับการส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 2.21 ดอลลาร์ หรือ 2.76% ปิดที่ 82.20 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่สัญญาฟิวเจอร์สน้ำมันดิบ WTI ของสหรัฐพุ่งขึ้น 2.06 ดอลลาร์หรือ 2.7% ปิดที่ 78.29 ดอลลาร์
สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง 5.89 ล้านบาร์เรล ตามรายงานของ EIA เทียบกับที่คาดการณ์ว่าจะลดลง 1.66 ล้านบาร์เรล ขณะที่เมื่อวันอังคาร API รายงานปริมาณการเบิกจ่ายไป 3.1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์จนถึงวันที่ 16 ธันวาคม
Phil Flynn นักวิเคราะห์จาก Price Futures Group กล่าวว่า “รายงานดังกล่าวกระตุ้นแนวโน้มเชิงบวกอย่างมาก”
ขณะที่ตลาดยังรอความชัดเจนเกี่ยวกับการกลับมาเปิดให้บริการของท่อส่งน้ำมัน Keystone หลังจาก TC Energy เผยว่าได้ซ่อมแซมส่วนที่รั่วไหลแล้วเสร็จและอยู่ระหว่างการตรวจสอบทางโลหะวิทยาตามคำสั่งของหน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐ
ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนอีกทางจากความหวังว่าจีนจะคลายนโยบายการควบคุมโรคระบาด ท่ามกลางการรายงานผู้เสียชีวิตรายใหม่แล้ว 19 ราย
การนำเข้าน้ำมันดิบของจีนจากรัสเซียในเดือนพฤศจิกายนเพิ่มขึ้น 17% เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยจีนเร่งเพิ่มปริมาณในสต็อกก่อนการกำหนดเพดานราคาของ G7 ที่มีผลแล้วเมื่อวันที่ 5 ธันวาคมที่ผ่านมา
รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของซาอุดีอาระเบียกล่าวเมื่อวันอังคารว่า มติการลดปริมาณอุปทานของ OPEC+ นั้นเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง โดย Tina Teng นักวิเคราะห์ของ CMC Markets มองว่าสัญญาณดังกล่าวอาจแสดงว่ากลุ่มจะยังคงจำกัดการอุปทานต่อไป
สหรัฐอาจต้องเผชิญกับพายุหิมะตกหนักซึ่งน่าจะทำให้เที่ยวบินล่าช้าและถนนไม่สามารถใช้งานได้ระหว่างช่วงเทศกาลที่มีการเดินทางมากที่สุดในรอบปี
การส่งออกน้ำมันของรัสเซียลดลง 11% เมื่อเทียบเป็นรายเดือนตั้งแต่วันที่ 1-20 ธันวาคม หลังจากที่สหภาพยุโรปคว่ำบาตรน้ำมันรัสเซีย
แหล่งข่าว Oil prices rise over $2 on drawdown in U.S. crude stocks โดย Reuters
COMMENTS