น้ำมันปรับตัวลดลงในวันพุธหลังจากเพิ่มขึ้นในสามช่วงก่อนหน้านี้ แต่การร่วงลงยังถูกพยุงจากมุมมองที่ว่าอุปทานทั่วโลกจะยังคงตึงตัวต่อไป เนื่องจากผู้ผลิตรายใหญ่อย่างซาอุดีอาระเบียผลิตเต็มกำลังการผลิตแล้ว
ฟิวเจอร์วน้ำมันดิบ WTI ของสหรัฐลดลง 44 เซนต์หรือ 0.4% สู่ 111.32 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ฟิวเจอร์สน้ำมันดิบเบรนต์สำหรับเดือนสิงหาคมลดลง 61 เซนต์หรือ 0.5% สู่ระดับ 117.37 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ทั้งนี้ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าสำหรับเดือนสิงหาคมจะหมดอายุในวันพฤหัสบดีและเดือนกันยายนอยู่ที่ 113.14 ดอลลาร์ลดลง 66 เซนต์ หรือ 0.6%
Hiroyuki Kikukawa ผู้จัดการทั่วไปของ Hiroyuki Kikukawa ผู้จัดการทั่วไปของ Hiroyuki Kikukawa กล่าวว่า “นักลงทุนปรับตำแหน่ง ท่ามกลางความคาดหวังว่าซาอุดีอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์จะไม่สามารถเพิ่มผลผลิตได้อย่างมีนัยสำคัญเพื่อตอบสนองความต้องการ ทั้งนี้ราคาน้ำมันน่าจะอยู่เหนือ 110 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และความกังวลว่าอุปทานอาจหยุดชะงักเนื่องจากพายุเฮอริเคนในขณะที่สหรัฐเข้าสู่ฤดูร้อน”
รายได้จากน้ำมันของกลุ่ม OPEC เพิ่มขึ้นในปี 2021 เนื่องจากราคาและความต้องการฟื้นตัวจากการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ขณะที่จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันของสมาชิกกลุ่มนี้ฟื้นตัวเล็กน้อยและบ่อขุดเจาะที่สร้างเสร็จใหม่ลดลง
นักวิเคราะห์ยังเตือนว่าความไม่สงบทางการเมืองในเอกวาดอร์และลิเบียอาจทำให้อุปทานตึงตัวยิ่งขึ้น
ในด้านข้อมูลสินค้าคงคลังในสหรัฐ สต็อกน้ำมันเบนซินสำหรับสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 24 มิ.ย. เพิ่มขึ้น 2.9 ล้านบาร์เรล และปริมาณน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้น 2.6 ล้านบาร์เรล ตามแหล่งข่าวในตลาดที่อ้างถึงตัวเลขของสถาบันปิโตรเลียมแห่งอเมริกาเมื่อวันอังคาร อย่างไรก็ตาม สต็อกน้ำมันดิบลดลง 3.8 ล้านบาร์เรล
ผลสำรวจของรอยเตอร์ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐคาดว่าจะลดลงในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา รายงานสถานะปิโตรเลียมรายสัปดาห์ของรัฐบาลเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเกิดความล่าช้าเนื่องจากปัญหาด้านฮาร์ดแวร์ ข้อมูลสำหรับทั้งสองสัปดาห์จะเผยแพร่พร้อมกันในวันพุธ
แหล่งข่าว Oil prices take breather after three-day rally โดย Reuters
COMMENTS