น้ำมันร่วงลงในวันพุธ (11/01/2023) หลังขึ้นในช่วงก่อนจากรายงานสต็อกน้ำมันดิบและน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นเหนือคาดการณ์ ซึ่งกระตุ้นให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์อีกครั้ง
สัญญาฟิวเจอร์สน้ำมันดิบ WTI ของสหรัฐ ลดลง 59 เซนต์ หรือ 0.8% อยู่ที่ 74.53 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่สัญญาฟิวเจอร์สน้ำมันดิบเบรนต์ลดลง 62 เซนต์ หรือ 0.8% อยู่ที่ 79.48 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้น 14.9 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 6 มกราคม ตามข้อมูลของแหล่งข่าวรายหนึ่งซึ่งอ้างตามตัวเลขของ API ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันอากาศยาน เพิ่มขึ้นประมาณ 1.1 ล้านบาร์เรล
นักวิเคราะห์ที่สำรวจโดย Reuters คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบจะลดลง 2.2 ล้านบาร์เรล และสต็อกกลั่นจะลดลง 500,000 บาร์เรล ผู้ค้าจะคอยดูข้อมูลสินค้าคงคลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐที่มีกำหนดส่งในวันพุธนี้เพื่อดูว่าตรงกับข้อมูลเบื้องต้นจาก API หรือไม่
ตลาดน้ำมันถูกกดดันตลอดช่วงที่ผ่านมาจากความกังวลเกี่ยวกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐ ซึ่งจะกระตุ้นให้เกิดภาวะถดถอยและลดความต้องการเชื้อเพลิง แม้มีปัจจัยเชิงบวกในจีนก็ตาม “ข่าวเมื่อวันจันทร์ว่าจีนได้ออกโควตานำเข้าชุดใหม่ ซึ่งสะท้อนว่าจีนกำลังตอบสนองต่อุปสงค์ที่เพิ่มขึ้น”
จุดสนใจสำคัญในสัปดาห์นี้อยู่ที่ข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐซึ่งจะครบกำหนดในวันพฤหัสบดี หากอัตราเงินเฟ้อต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ซึ่งจะทำให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงก็อาจสามารถเพิ่มอุปสงค์น้ำมันได้เนื่องจากทำให้น้ำมันถูกลงสำหรับผู้ซื้อที่ถือเงินสกุลอื่น
แหล่งข่าว Oil slips as U.S. crude, fuel inventories reignite demand concerns โดย Reuters
COMMENTS