น้ำมันทรงตัวหลังจากร่วงลงในช่วงก่อน

REUTERS/Tatiana Meel

ราคาน้ำมันทรงตัวในการซื้อขายช่วงต้นในเอเชียในวันอังคาร หลังสหรัฐรายงานข้อมูลภาคการผลิตที่ออกมาอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งกระตุ้นให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายที่จะกดดันต่ออุปสงค์ กอปกรกับคาดการณ์สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่จะเพิ่มขึ้นอีก

สัญญาฟิวเจอร์สน้ำมันดิบเบรนท์สำหรับเดือน เม.ย. ซึ่งจะหมดอายุในวันอังคารลดลง 20 เซนต์ สู่ระดับ 82.25 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากร่วงลง 0.9% ในช่วงก่อนหน้า สัญญาฟิวเจอร์สเดือน พ.ค. ขยับขึ้น 4 เซนต์ ปิดที่ 82.08 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

สัญญาฟิวเจอร์สน้ำมันดิบ WTI ของสหรัฐเพิ่มขึ้น 11 เซนต์ ปิดที่ 75.79 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ผลกระทบจากการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐกำลังแสดงผลต่อคำสั่งซื้อใหม่ที่แข็งแกร่งเกินคาดสำหรับ Manufactured Capital Goods ของสหรัฐในเดือนมกราคม ขณะที่นายฟิลิป เจฟเฟอร์สัน ผู้ว่าการเฟดกล่าวว่า อัตราเงินเฟ้อสำหรับภาคบริการในสหรัฐยังคง “สูงอย่างดื้อรั้นทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย” นักวิเคราะห์ของ ANZ กล่าว

ตลาดจับตาดูข้อมูลสต็อกน้ำมันล่าสุดของสหรัฐโดยกลุ่ม API ในวันอังคาร และจาก EIA ที่จะออกมาในวันพุธนี้ โดยผลสำรวจเบื้องต้นของรอยเตอร์แสดงให้เห็นว่านักวิเคราะห์คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 400,000 บาร์เรลในสัปดาห์จนถึงวันที่ 24 ก.พ. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 10

แหล่งข่าว Oil steadies after fall on fear of rate hikes, rising inventories โดย Reuters