น้ำมันดิบเบรนท์ร่วงลง 6.45 ดอลลาร์หรือ 5.7% ปิดที่ 105.94 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล น้ำมันดิบ WTI ของสหรัฐ ลดลง 6.68 ดอลลาร์ หรือ 6.1% ปิดที่ 103.09 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ตลาดการเงินทั่วโลกตื่นตระหนกจากความกังวลเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย เนื่องจากการล็อกดาวน์ในจีนทำให้การส่งออกในเดือนเมษายนขยายตัวช้าลง
ดัชนีหุ้นวอลล์สตรีทร่วงลงและค่าเงินดอลลาร์แตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ทศวรรษ ทำให้น้ำมันแพงขึ้นสำหรับผู้ถือสกุลเงินอื่น ซาอุดีอาระเบียปรับลดราคาน้ำมันดิบสำหรับเอเชียและยุโรปในเดือนมิถุนายน ในรัสเซีย ผลผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นในช่วงต้นเดือนพฤษภาคมตั้งแต่เดือนเมษายน และการผลิตเริ่มมีเสถียรภาพตามคำกล่าวของรองนายกรัฐมนตรีอเล็กซานเดอร์ โนวัค
สหภาพยุโรปห้ามนำเข้าน้ำมันของรัสเซีย
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว คณะกรรมาธิการยุโรปได้เสนอให้มีการคว่ำบาตรน้ำมันรัสเซียแบบค่อยเป็นค่อยไป ทำให้ราคาเบรนท์และ WTI ร่วงเป็นสัปดาห์ที่สอง โดยที่คณะกรรมาธิการยุโรปกำลังพิจารณาที่จะเสนอให้สหภาพยุโรปตะวันออกยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำมันเพื่อโน้มน้าวในมาตรการดังกล่าวนี้
Bjørnar Tonhaugen หัวหน้าฝ่ายวิจัยตลาดน้ำมันของ Rystad Energy กล่าว “การคว่ำบาตรน้ำมันของสหภาพยุโรปจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในตลาดน้ำมันดิบยุโรปและตลาดโลก ซึ่ง Rystad Energy คาดว่าการนำเข้าน้ำมันดิบของสหภาพยุโรปจากรัสเซียจะอยู่ที่ 3.0 ล้านบาร์เรลต่อวันภายในเดือนธันวาคม 2022”
เจ้าหน้าที่เยอรมนีกำลังเตรียมการอย่างเงียบ ๆ เพื่อยุติการจัดหาก๊าซของรัสเซีย และอาจมีการควบคุมบริษัทขนาดใหญ่ด้วย ญี่ปุ่น เตรียมสั่งห้ามการนำเข้าน้ำมันดิบของรัสเซีย “ตามหลักการ” นายกรัฐมนตรีฟุมิโอะ คิชิดะ
แหล่งข่าว Oil tumbles about 6% as China COVID lockdowns weigh โดย Reuters
COMMENTS