การประชุมสัมมนาของเฟดในสัปดาห์นี้ได้เผยให้เห็นว่าธนาคารกลางกำลังเตรียมรับมือกับเทคโนโลยีดิจิทัลที่เกิดขึ้นใหม่ อาทิ การสร้างสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง หรือดอลลาร์ดิจิทัลหรือยูโร และแข่งขันกับกองทุนตลาดเงินและเครื่องมือทางการเงินที่สำคัญอื่นๆ ในช่วงวิกฤต ซึ่งแนวทางเหล่านี้อาจทำให้ระบบขาดสภาพคล่อง และบังคับให้เฟดเพิ่มการปล่อยสินเชื่อให้กับธนาคารพาณิชย์หรือเพิ่มการถือครองพันธบัตรรัฐบาลและหลักทรัพย์ที่คล้ายคลึงกันเพื่อให้ระบบมีเสถียรภาพ
ขณะนี้ เฟดอยู่ระหว่างการหารือเกี่ยวกับการพัฒนาสกุลเงินดิจิทัล เช่นเดียวกับธนาคารกลางส่วนใหญ่ทั่วโลกที่ยังไม่มีการตัดสินใจ แต่ความตึงเครียดอาจดูเหมือนห่างไกล เนื่องจากมูลค่าตลาดของคริปโตและ stablecoin ยังคงเป็นส่วนเล็กๆ ของระบบการเงิน แม้ว่าผู้ให้บริการหลายรายอาทิ PayPal และ Apple Pay เข้าร่วมในตลาดนี้แล้ว
Eswar Prasad ศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยคอร์เนลล์และผู้แต่ง หนังสือเล่มล่าสุด “The Future of Money” ในหัวข้อกล่าวข้างสนามของการประชุม “ทุกวันนี้ในบางประเทศอย่าง จีน อินเดีย หรือสวีเดน พบว่าผู้ค้ารายย่อยไม่ได้ชำระเงินผ่านระบบธนาคารกลางเลย” โดยผู้ให้บริการภาคเอกชนเข้ามามีบทบาทแทน
ในสหรัฐ ปธน.ไบเดนชี้ถึงการเติบโตของสินทรัพย์คริปโตในช่วง 5 ปีจาก 14,000 ล้านดอลลาร์เป็น 3 ล้านล้านดอลลาร์ ณ เดือนพฤศจิกายน โดยคณะทำงานได้ออกคำสั่งในเดือนมีนาคมเพื่อให้หน่วยงานต่างๆหาแนวทางควบคุมอุตสาหกรรมนี้ และพบว่ามากกว่า 90% ของธนาคารกลาง 81 แห่งในประเทศทั่วโลกกำลังสำรวจแนวคิดเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง ตามรายงานของ Bank for International Settlements
นอกจากนี้ มากกว่าหนึ่งในสี่กำลังพัฒนาสกุลเงินดิจิทัลหรือดำเนินโครงการนำร่องไปแล้ว ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าจากปี 2020 ถึง 2021 ขณะที่ ธนาคารกลางกว่า 60% ระบุว่าการใช้เงินสดลดลงเช่นกัน
แหล่งข่าว A coming crypto storm for central banks? Focus on digital money intensifies โดย Reuters
COMMENTS