ฟิวเจอร์สดัชนีหุ้นสหรัฐร่วงลงเล็กน้อยในช่วงเช้าของวันพฤหัสบดี เนื่องจากดัชนี S&P 500 เตรียมปิดครึ่งแรกที่แย่ที่สุดในรอบหลายทศวรรษ
ฟิวเจอร์สดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วง 0.23% หรือ 71 จุด ฟิวเจอร์ส S&P 500 ลดลง 0.29% ขณะที่ฟิวเจอร์ส Nasdaq 100 ลดลง 0.33% ระหว่างการซื้อขายปกติ ดัชนีดาวโจนส์พุ่ง 82 จุดหรือ 0.27% S&P 500 และ Nasdaq Composite ติดลบติดต่อกันเป็นวันที่สามโดยลดลง 0.07% และ 0.03% ตามลำดับ
ดาวโจนส์และ S&P 500 อยู่ในช่วงสามเดือนที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2020 ขณะที่ Nasdaq Composite ลดลงมากกว่า 20% ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาซึ่งเป็นช่วงที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2008
Federal Reserve ได้ดำเนินการเชิงรุกเพื่อพยายามลดอัตราเงินเฟ้อที่สูงสุดในรอบ 40 ปี นายลอเร็ตตา เมสเตอร์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐแห่งคลีฟแลนด์ บอกกับ CNBC ว่าเขาสนับสนุนการปรับขึ้นดอกเบี้ย 75 จุดในการประชุมของธนาคารกลางในเดือนกรกฎาคมที่จะถึงนี้
แต่ผู้เล่นในตลาดบางคนกังวลว่าการกระทำที่ก้าวร้าวเกินไปจะทำให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย “เราไม่เชื่อว่าตลาดหุ้นจะถึงจุดต่ำสุดและเรามองเห็นข้อเสียเพิ่มเติมในอนาคต นักลงทุนควรถือเงินสดไว้ในระดับสูงในขณะนี้” จอร์จ บอลล์ ประธานแซนเดอร์ส มอร์ริส แฮร์ริส กล่าว “เราเห็นดัชนี S&P 500 ถึงจุดต่ำสุดที่ประมาณ 3,100 หากเฟดความแข็งกร้าวเกินไป”
บริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ที่จดทะเบียนในสหรัฐต่างหดตัวลง โดย Netflix ลดลง 70% Apple และ Alphabet ลดลงแล้วราว 22% ขณะที่ Meta ก็ลดลง 51%
ด้านข้อมูลเศรษฐกิจ ตลาดจับตาข้อมูลการขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ที่จะออกมาในวันพฤหัสบดี นักเศรษฐศาสตร์ที่สำรวจโดยดาวโจนส์คาดว่าจะอยู่ที่ 230,000 ราย ข้อมูลรายได้ส่วนบุคคลและการใช้จ่ายส่วนบุคคลก็จะถูกเปิดเผยเช่นกัน
ในด้านผลประกอบการบริษัท Constellation Brands และ Walgreens Boots Alliance เตรียมเผยผลประกอบการรายไตรมาสก่อนเสียงระฆัง ขณะที่ Micron จะออกมาหลังจากตลาดปิด
แหล่งข่าว Stock futures are slightly lower as S&P 500 tracks for worst first half of the year since 1970 โดย CNBC
COMMENTS