หุ้นร่วง บอนด์ยีลด์และดอลลาร์ขึ้นหลังความเห็นของ จนท. เฟด

Lael Brainard หนึ่งในผู้กำหนดนโยบายสายเหยี่ยวเผยว่าอัตราดอกเบี้ยจะเพิ่มขึ้นและงบดุลที่ลดลงอย่างรวดเร็วจะทำให้นโยบายการเงินของสหรัฐเข้าสู่ “สถานะที่เป็นกลางมากขึ้น” ในปลายปีนี้ โดยจะต้องเข้มงวดขึ้นอีกตามความจำเป็น

“ในช่วงที่เหลือของสัปดาห์นี้ ตลาดจะได้รับแรงหนุนจากข่าวอัตราดอกเบี้ย รวมถึงข้อคิดเห็นของ จนท. เฟดเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย” ปีเตอร์ ทูซ ประธานที่ปรึกษาการลงทุน Chase
นักลงทุนยังจับตาดูการพัฒนาการรุกรานยูเครนของรัสเซียอย่างใกล้ชิด โดยประเทศตะวันตกเตรียมที่จะเพิ่มการคว่ำบาตรเพื่อรวมการห้ามการลงทุนใหม่ทั้งหมดในรัสเซีย

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ลดลง 280.7 จุดหรือ 0.8% สู่ 34,641.18, S&P 500 ลดลง 57.52 จุดหรือ 1.26% สู่ 4,525.12 และ Nasdaq Composite ลดลง 328.39 จุดหรือ 2.26% ถึง 14,204.17

ดัชนี STOXX 600 ปิดลง 0.2% และดัชนี MSCI หุ้นโลกร่วงลง 0.97%

อัตราผลตอบแทนบอนด์ยีลด์อายุ 10 ปีเพิ่มขึ้น 13.1 จุดพื้นฐานเป็น 2.543% ขณะที่ผลตอบแทนบอนด์ยีลด์ 2 ปีเพิ่มขึ้น 7.2 จุดพื้นฐานที่ 2.500% ส่วนต่างอยู่ที่ 3.97 จุดพื้นฐานหลังจากที่ติดลบตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว

ราคาพลังงานและอาหารโลกที่พุ่งสูงขึ้นหมายความว่าเกือบ 60% ของประเทศพัฒนาแล้วในขณะนี้มีอัตราเงินเฟ้อเมื่อเทียบปีต่อปีที่สูงกว่า 5% ซึ่งเป็นส่วนแบ่งที่ใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ช่วงปลายทศวรรษ 1980 ในขณะที่มากกว่า 7% ในมากกว่าครึ่งหนึ่งของประเทศกำลังพัฒนา

ราคาน้ำมันผ่อนคลายลงเมื่อวันอังคาร ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่พุ่งสูงขึ้นและจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้น ฟิวเจอร์สเบรนต์ร่วงลง 89 เซนต์หรือ 0.8% ปิดที่ 106.64 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ ฟิวเจอร์ว WTI ของสหรัฐร่วงลง 1.32 ดอลลาร์หรือ 1.3% ปิดที่ 101.96 ดอลลาร์

แหล่งข่าว Stocks fall, bond yields and dollar gain after hawkish Fed comments โดย Reuters