SEARCH

สหรัฐและพันธมิตรหาความร่วมมือด้านชิป

หุ้นเอเชียร่วงหลังจีนเผยตัวเลข GDP ที่ตกต่ำ
ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นจากผลตอบแทนพันธบัตรที่อ่อนตัว Omicron ยังคงเขย่าตลาดเงิน
การวิเคราะห์คลื่นดัชนี FTSE 100 วันที่ 4 มกราคม 2565

ประเทศผู้ผลิตชิปชั้นนำรวมถึงสหรัฐกำลังสร้างความร่วมมือกันเพื่อสร้างความแข็งแกร่งของห่วงโซ่อุปทานเซมิคอนดักเตอร์และป้องกันความเหลื่อมล้ำที่อาจเกิดขึ้นจากจีน โดยประเทศและเขตเศรษฐกิจดังกล่าว ได้แก่ สหรัฐ เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และไต้หวัน ซึ่งเดิมทีเป็นผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ชั้นนำของโลกอยู่แล้ว

ความร่วมมือที่เกิดขึ้นครั้งนี้ตอกย้ำถึงความสำคัญของชิปต่อระบบเศรษฐกิจโลกและความมั่นคงระดับชาติ ขณะเดียวกันก็สะท้อนถึงบทบาทของจีนที่จะเข้ามาครอบงำในอุตสาหกรรมชิปของโลก

ความสำคัญของชิปเริ่มาเพิ่มขึ้นหลังจากที่การผลิตของอุตสาหกรรมการผลิตที่ต้องใช้ชิปเริ่มชะงักในช่วงแพร่ระบาดเนื่องจากการขาดแคลนชิปและการชะงักของห่วงโซ่อุปทาน แต่ห่วงโซ่อุปทานของเซมิคอนดักเตอร์นั้นซับซ้อนยิ่งกว่าชิ้นส่วนอื่น ๆ เพราะมันยังครอบคลุมตั้งแต่การออกแบบ บรรจุภัณฑ์ ไปจนถึงการผลิต และเครื่องมือเฉพาะทาง

ในสหรัฐแม้จะเป็นผู้นำในตลาดในหลายอุสาหกรรม แต่ในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา TSMC ของไต้หวันและ Samsung ของเกาหลีใต้เข้ามามีบทบาทในการอุปทานเซมิคอนดักเตอร์ของโลก โดยทั้งสองประเทศมีสัดส่วนการอุปทานถึง 80% ทั่วโลก

จากบทบาทที่เข้มแข็งของ 2 ประเทศและเขตเศรษฐกิจทำให้เกิดความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจทั่วโลก โดยเฉพาะสถานการณ์ของไต้หวันกับจีน

ประเทศต่างๆ เริ่มแสวงหาพันธมิตรด้านชิปมากขึ้น

ในเดือนพฤษภาคมโจ ไบเดน ประธานาธบดีของสหรัฐเดินทางไปเกาหลีใต้ โดยได้เข้าเยี่ยมชมโรงงานเซมิคอนดักเตอร์ของซัมซุง ขณะเดียวกัน Gina Raimondo รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐได้พบกับ Koichi Hagiuda พาร์ทเนอร์ชาวญี่ปุ่นเพื่อหารือเกี่ยวกับ “ความร่วมมือในด้านต่างๆ เช่น เซมิคอนดักเตอร์และการควบคุมการส่งออก”

ในเดือนสิงหาคม ไช่ อิงเหวินประธานาธิบดีของไต้หวันกล่าวกับ Doug Ducey ผู้ว่าการรัฐแอริโซนาที่ไปเยือนสหรัฐว่าเธอตั้งตารอที่จะผลิต “ชิปเสรี (Democracy Chips)” กับสหรัฐ นอกจากนี้สหรัฐ อินเดีย ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย กลุ่มประชาธิปไตยที่เรียกว่า Quad (Quadrilateral Security Dialogue) นอกจากนี้ สหรัฐยังมีพันธมิตรอื่น ๆ ในนาม “Chip 4” กับเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และไต้หวัน อีกด้วย ทั้งนี้ ที่เป็นน่าสังเกตว่าความร่วมมือที่เกิดขึ้นนี้ไม่มีจีน

“เป้าหมายของความพยายามทั้งหมดนี้คือป้องกันไม่ให้จีนพัฒนาความสามารถในการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูงภายในประเทศ” Paul Triolo หัวหน้านโยบายด้านเทคโนโลยีของบริษัทที่ปรึกษา Albright Stonebridge กล่าวกับ CNBC

แล้วจีนอยู่ที่ไหน?

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จีนได้ทุ่มเงินจำนวนมากในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ภายในประเทศ โดยมีเป้าหมายเพื่อรับรองความเพียงพอและลดการพึ่งพาจากต่างชาติ ผู้ผลิตชิปสัญญารายใหญ่ที่สุดของจีนคือ SMIC แต่เทคโนโลยีของบริษัทนั้นยังตามหลังของ TSMC และ Samsung อย่างมาก

“มันต้องอาศัยความร่วมมือจากนานาประเทศเป็นอย่างมาก ซึ่งฉันคิดว่าตอนนี้เป็นปัญหาใหญ่สำหรับจีน” Kotathane เสริมว่า “ในระยะยาว ฉันคิดว่าจีนจะสามารถเอาชนะความท้าทายในปัจจุบันได้”

แหล่งข่าว The U.S. and its allies are joining forces on chips. That could stop China reaching the next level โดย CNBC

COMMENTS

WORDPRESS: 0
DISQUS: 0