คณะบริหารของไบเดนประกาศว่ากำลังพิจารณาที่จะปล่อยน้ำมัน 180 ล้านบาร์เรลจาก Strategic Petroleum Reserves ในอีกช่วง 6 เดือนข้างหน้า ซึ่งคิดเป็นหนึ่งในสามของปริมาณทั้งหมดที่ 568 ล้านบาร์เรล
ตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้ว สหรัฐได้ปล่อยน้ำมันสำรองอย่างจริงจัง โดยมีการปล่อยออก 9% และ 8% ตั้งแต่เดือนตุลาคม ตามแผนการแทรกแซงราคาร่วมกับประเทศอื่นๆ เพื่อลดราคาน้ำมัน
อย่างไรก็ตาม ที่น่าสนใจคือ ผู้ผลิตในสหรัฐยังคงไม่สามารถเพิ่มอุปทานเพิ่มเติมได้ โดยการผลิตเมื่อสัปดาห์ที่แล้วมีค่าเฉลี่ย 11.7 ล้านบาร์เรลเท่ากับค่าเฉลี่ย 6 เดือนที่ผ่านมา ทั้งนี้ การเบิกจ่ายที่เพิ่มขึ้นหมายความว่าสหรัฐจะต้องเร่งการผลิตขึ้นอีก
นอกจากนี้ สหรัฐให้คำมั่นที่จะเพิ่มการจัดหาก๊าซไปยังยุโรปเพื่อลดการพึ่งพาก๊าซของรัสเซีย ตลาดตอบสนองต่อข่าวดังกล่าว โดยที่ WTI ลดลง 5% ทดสอบระดับ 100/bbl อีกครั้ง แต่คงเป็นเพียงชั่วคราว เนื่องจากไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาระยะยาว
ในเดือนมีนาคม 2020 สหรัฐผลิตน้ำมันสู่ระดับสูงสุดที่ 13 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งสูงกว่าระดับปัจจุบัน 1.3 ล้านบาร์เรล อย่างไรก็ตาม หลังการแพร่ระบาดการเติบโตของการผลิตได้ชะลอตัวลงอย่างมากเมื่อเทียบกับโมเมนตัมในปี 2011-2015 และ 2017-2021
ยิ่งกว่านั้น ก็มีเหตุผลที่จะคาดหวังให้สหรัฐฯ และยุโรปเพิ่มความพยายามและยื่น ‘ข้อเสนอ’ ให้กับ OPEC และคว่ำบาตรอิหร่านและเวเนซุเอลาซึ่งมีกำลังการผลิตสำรองในระยะสั้นเพิ่มการผลิตอย่างทวีคูณในระยะยาว
ทั้งนี้ เราควรคาดว่าแนวโน้มขาขึ้นของน้ำมันที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้วจะยังคงอยู่ในตำแหน่งเดิม โดยทำให้ราคาอยู่เหนือ 120 ดอลลาร์อย่างต่อเนื่องก่อนสิ้นปี
แหล่งข่าว The US plans to sell off reserves won’t turn Crude prices around โดย The FxPro Analyst Team
COMMENTS