ผลผลิตก๊าซธรรมชาติของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น อุปสงค์อาจคลายลงในปี 2565

การผลิตก๊าซธรรมชาติของสหรัฐจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2565 สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐ (EIA) ระบุในรายงานแนวโน้มพลังงานระยะสั้น (STEO) เมื่อวันอังคาร

EIA คาดการณ์ว่าการผลิตก๊าซแห้งจะเพิ่มขึ้นเป็น 96.04 พันล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน (bcfd) ในปี 2565 และ 97.55 bcfd ในปี 2566 จากสถิติปัจจุบันที่ 93.51 bcfd ในปี 2564 ขณะที่ ปริมาณการใช้ก๊าซจะลดลงจาก 82.96 bcfd ในปี 2564 เป็น 82.77 bcfd ในปี 2565 ก่อนที่จะเพิ่มขึ้นเป็น 82.84 bcfd ในปี 2566 ซึ่งเปรียบเทียบกับสถิติที่ 85.29 bcfd ในปี 2562 ทั้งนี้ หากปริมาณการใช้ก๊าซลดลงในปี 2565 ตามที่คาดไว้ จะเป็นครั้งแรกที่ความต้องการใช้ลดลงในช่วงสามปีติดต่อกันนับตั้งแต่ปี 2526 ซึ่งลดลงเป็นเวลาสี่ปีติดต่อกันตามข้อมูลของ EIA

การคาดการณ์อุปทานในเดือนมกราคมของ EIA สำหรับปี 2565 นั้นมากกว่าการคาดการณ์ในเดือนธันวาคมที่ 95.97 bcfd แต่การคาดการณ์อุปสงค์ในเดือนมกราคมลดลงจากการคาดการณ์ในเดือนธันวาคมที่ 83.10 bcfd

หน่วยงานฯ ยังคาดการณ์ว่าการส่งออกก๊าซธรรมชาติเหลวของสหรัฐจะสูงถึง 11.54 bcfd ในปี 2565 และ 12.13 bcfd ในปี 2566 เพิ่มขึ้นจาก 9.78 bcfd ในปี 2564 ซึ่งคล้ายกับการคาดการณ์ในเดือนธันวาคมที่ 11.49 bcfd ในปี 2565

EIA คาดการณ์ว่าการผลิตถ่านหินในสหรัฐฯ จะเพิ่มขึ้นเป็น 612 ล้านตันสั้นในปี 2565 และ 619 ล้านตันสั้นในปี 2566 จาก 579 ล้านตันสั้นในปี 2564 เนื่องจากโรงไฟฟ้าใช้ถ่านหินมากขึ้น โดยในปี 2563 ผลผลิตถ่านหินลดลงเหลือ 535 ล้านตัน ซึ่งต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2508

นอกจากนี้ EIA คาดการณ์ว่าการปล่อยคาร์บอนจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิลจะเพิ่มขึ้นจาก 4.859 พันล้านตันในปี 2564 เป็น 4.946 พันล้านตันในปี 2565 และ 4.971 พันล้านในปี 2566 เนื่องจากเครื่องกำเนิดไฟฟ้าใช้ถ่านหินมากขึ้น ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 4.576 พันล้านตันในปี 2563 ซึ่งต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2526

แหล่งข่าว U.S. natgas output to rise, demand to ease in 2022 -EIA โดย Reuters