SEARCH

หุ้นสหรัฐร่วงหลังจากการดีดขึ้นเมื่อวานนี้

สหรัฐฯ จะไม่อนุญาตให้ใช้เงินดิจิทัลสำหรับธุรกิจเงา
Bitcoin อาจต้องสร้างฐานเหนือ 40,000 ดอลลาร์เพื่อยันยืนการพลิกกลับ
“อาคม” หวั่นกระทบระบบชำระเงิน ย้ำคริปโทฯ ใช้ชำระสินค้าไม่ได้

ข้อมูลในวันจันทร์แสดงให้เห็นว่าคำสั่งซื้อใหม่สำหรับสินค้าทุนที่ผลิตในสหรัฐฯ และการจัดส่งเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งในเดือนพฤษภาคม ซึ่งชี้ให้เห็นถึงความแข็งแกร่งที่ยั่งยืนของการใช้จ่ายทางธุรกิจด้านอุปกรณ์ในไตรมาสที่สอง

Jake Dollarhide ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Longbow Asset Management ใน Tulsa, Oklahoma กล่าวว่า “ไม่ใช่เรื่องน่าตกใจเลย เนื่องจากเราอยู่ในตลาดหมีซึ่งสัปดาห์ที่แล้วเป็นสัปดาห์ที่ดีและสัปดาห์นี้กลายเป็นสัปดาห์ที่แย่”

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ลดลง 62.42 จุดหรือ 0.2% สู่ 31,438.26, S&P 500 ลดลง 11.63 จุดหรือ 0.30% สู่ 3,900.11 และ Nasdaq Composite ลดลง 83.07 จุดหรือ 0.72% ถึง 11,524.55

ดัชนี STOXX 600 เพิ่มขึ้น 0.52% และดัชนี MSCI หุ้นทั่วโลกเพิ่มขึ้น 0.31%

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรพุ่งขึ้นหลังจากคำสั่งซื้อทุนและสินค้าคงทนสร้างความประหลาดใจ แต่การขายธนบัตรอายุ 2 และ 5 ปียังคงอ่อนแอ พันธบัตรอายุ 10 ปีเพิ่มขึ้น 7 คะแนนพื้นฐานเป็น 3.194% และอัตราผลตอบแทน 2 ปีเพิ่มขึ้น 6.9 คะแนนพื้นฐานเป็น 3.126%

ราคาน้ำมันดิบเบรนต์ปิดขึ้น 1.97 ดอลลาร์หรือ 1.7% ที่ 115.09 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ WTI ของสหรัฐปิดขึ้น 1.95 ดอลลาร์หรือ 1.8% ที่ 109.57 ดอลลาร์

รูเบิลของรัสเซียมีความผันผวนเนื่องจากรัสเซียผิดนัดชำระหนี้ครั้งแรกในรอบกว่าศตวรรษ นอกจากนี้ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับคู่แข่งขันหลัก เนื่องจากนักลงทุนประเมินความคาดหวังเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อและการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เงินยูโรได้รับความช่วยเหลือจากความคาดหวังว่าในไม่ช้าธนาคารกลางยุโรปจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบกว่าทศวรรษ ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ร่วงลง 0.058% โดยเงินยูโรเพิ่มขึ้น 0.23% เป็น 1.0578 ดอลลาร์

Bitcoin ลดลง 0.59% กลับไปที่ 20,905.04 ดอลลาร์ ทองคำสปอตลดลง 0.2% ที่ 1,822.89 ดอลลาร์ต่อออนซ์

แหล่งข่าว U.S. stocks fall after recent big gains; oil, yields rise โดย Reuters

COMMENTS

WORDPRESS: 0
DISQUS: 0