รายงานผลประกอบการของบิคเทคจำนวนมากที่จะออกมาในอีกไม่กี่สัปดาห์ กำลังถูกตลาดจับตาโดยตลาด ดัชนี Nasdaq 100 ขึ้นเกือบ 6.2% ในปี 2023 เทียบกับการเพิ่มขึ้น 3.45% สำหรับ S&P 500 หุ้นของบริษัทขนาดใหญ่บางแห่ง ซึ่งรวมถึงกลุ่มที่อยู่นอกเทคโนโลยี เช่น บริการด้านการสื่อสารและสินค้าอุปโภคบริโภคพุ่งสูงขึ้น
ขณะนี้ โฟกัสของตลาดกำลังอยู่ที่ว่าหลายบริษัทจะสามารถต้านทานภาวะเศรษฐกิจตกต่ำที่คาดว่าจะเกิดขึ้นได้หรือไม่ ขณะที่
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและการเติบโตเป็นผู้นำตลาดตราสารทุนของสหรัฐเป็นเวลาหลายปีหลังวิกฤตการณ์ทางการเงินในปี 2007 โดยได้รับแรงหนุนจากอัตราดอกเบี้ยที่เกือบเป็น 0 แต่ตอนนี้ปัจจัยหนุนดังกล่าวเปลี่ยนไปเพราะธนาคารกลางสหรัฐกำลัเงเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ส่งผลให้ในปี 2022 ดัชนี Nasdaq 100 ร่วง 33% ขณะที่ S&P 500 ร่วง 19.4%
หุ้นหกอันดับแรกตามมูลค่าตลาดในช่วงปลายปี 2021 ได้แก่ Apple, Microsoft, Alphabet, Amazon, Meta และ Tesla ร่วงลงตั้งแต่ 25% จนถึง 18% ตามรายงานของ Strategas Research Partners
ทั้งนี้ บรรดาบริษัทต่างๆ ซึ่งมีมูลค่ารวมกันมากกว่าครึ่งหนึ่งของดัชนี S&P 500 มีกำหนดจะรายงานผลประกอบการณ์ในอีกสองสัปดาห์ข้างหน้า รวมถึง Microsoft ซึ่งเป็นบริษัทที่ใหญ่เป็นอันดับสองของสหรัฐตามมูลค่าตลาดในวันอังคาร บริษัท Tesla และ IBM ของ Elon Musk ในวันพุธ และ Intel ในวันพฤหัสบดี ขณะที่ Apple ซึ่งเป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐตามมูลค่าตลาด และ Alphabet จะรายงานในสัปดาห์ถัดไปจากนั้น
ตามข้อมูลของ Refinitiv IBES พบว่าผลประกอบการไตรมาสที่สี่ในภาคเทคโนโลยีคาดว่าจะลดลง 9.1% จากปีที่แล้ว เทียบกับการลดลง 2.8% สำหรับผลประกอบการโดยรวมของ S&P 500
Alphabet Inc เผยเมื่อวันศุกร์ว่ามีแผนปลดพนักงานราว 12,000 ตำแหน่งหรือ 6% ของจำนวนพนักงานทั้งหมด ก่อนนั้นเมื่อวันพุธที่ผ่านมา Microsoft เผยจะปลดพนักงาน 10,000 ตำแหน่ง ขณะที่ Amazon เริ่มแจ้งพนักงานถึงแผนการปลดพนักงาน 18,000 ตำแหน่งแล้ว ในด้าน Sameer Samana นักยุทธศาสตร์การตลาดอาวุโสระดับโลกของ Wells Fargo Investment Institute คาดว่าเศรษฐกิจจะเข้าสู่ภาวะถดถอยแต่เชื่อว่าบริษัทเทคโนโลยีหลายแห่งมีธุรกิจที่ปรับตัวต่อความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจได้
แหล่งข่าว Wall St Week Ahead Tech stock rebound faces doubters with earnings season ahead โดย Reuters
COMMENTS