ในวันพฤหัสบดีหุ้นสหรัฐปิดบวกมากกว่า 2% โดยได้แรงหนุนทั้งจากทางเทคนิคและนักลงทุนที่เดิมพันการดีดตัวขึ้นหลังการเทขายก่อนหน้านี้ ดัชนี S&P 500 พุ่งขึ้นเกือบ 194 จุดจากระดับต่ำสุด โดยนับเป็นการเพิ่มขึ้นในรอบวันสูงที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 24 มกราคม โดยมีหุ้นกลุ่มการเงิน และพลังงานเป็นผู้นำในดัชนี
หลังจากนั้น ตลาดเริ่มร่วงลงหลังจากรายงานดัชนี CPI ของสหรัฐออกมาเหนือคาดการณ์ที่ 8.2% yoy ในเดือนกันยายนเทียบกับการเพิ่มขึ้นประมาณ 8.1% ในเดือนก่อนนั้น
นักยุทธศาสตร์บางรายระบุว่ามีแรงหนุนจากสายเทคนิคหลัง S&P 500 ร่วงแตะ 3,500 จุด
ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 827.87 จุดหรือ 2.83% เป็น 30,038.72 ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 92.88 จุดหรือ 2.60% เป็น 3,669.91 จุดและ Nasdaq Composite เพิ่ม 232.05 จุดหรือ 2.23% ถึง 10,649.15 จุด
ธนาคารขนาดใหญ่ที่อยู่ในวอลล์สตรีทจะเริ่มรายงานผลประกอบการรายไตรมาสในวันศุกร์นี้ โดยนักลงทุนต่างรอดูว่าสภาพแวดล้อมที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงส่งผลต่อผลกำไรของบรรดาภาคธนาคารอย่างไร
ดัชนี S&P 500 ทำระดับสูงสุดใหม่ 3 จุดในรอบ 52 สัปดาห์และระดับต่ำสุดใหม่ 172 จุด ดัชนี Nasdaq Composite ทำสถิติสูงสุดใหม่ 51 จุดและระดับต่ำสุดใหม่ 600 จุด
ปริมาณการแลกเปลี่ยนในสหรัฐอยู่ที่ 13,390 ล้านหุ้น เทียบกับค่าเฉลี่ยประมาณ 11,000 ล้านสำหรับเซสชั่นเต็มในช่วง 20 วันทำการล่าสุด
แหล่งข่าว Wall Street ends up 2% after sharp reversal; technicals help โดย Reuters
COMMENTS