หุ้นโลกพุ่งขึ้น บอนด์ยีลด์ร่วงก่อนการประชุมนโยบายเฟด

ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวขึ้นในวันอังคารที่ผ่านมา บอนด์ยีลด์สหรัฐร่วงลง โดยนักลงทุนรอสรุปรายงานการประชุมนโยบายของเฟดเพื่อหาทิศทางเพิ่มเติม ท่ามกลางความกังวลต่อสถานการณ์แพร่ระบาดในจีนที่อาจนำไปสู่การล็อคดาวน์

เฟดเตรียมเผยรายงานการประชุมนโยบายประจำเดือนพฤศจิกายนในวันพุธ พร้อมภาพรวมของมุมมองของเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจ ในจีน ทางการปักกิ่งสั่งปิดสวนสาธารณะและพิพิธภัณฑ์ ขณะที่ในเซี่ยงไฮ้คุมเข้มสำหรับผู้ที่เดินทางเข้าเมือง

ดัชนี MSCI หุ้นโลกเพิ่มขึ้น 1.18% ขณะที่หุ้นยุโรปเพิ่มขึ้น 0.73%

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี Benchmark ลดลงเหลือ 3.7634% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 30 ปีลดลงเหลือ 3.8325%

ในวอลล์สตรีท ดัชนีหลักทั้งสามปิดบวก จากการเพิ่มขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี พลังงาน การดูแลสุขภาพ การเงิน และสินค้าอุปโภคและบริโภค ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 1.18% อยู่ที่ 34,098.1 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 1.36% อยู่ที่ 4,003.58 จุด และดัชนี Nasdaq Composite เพิ่มขึ้น 1.36% อยู่ที่ 11,174.41 จุด

Michael Ashley Schulman หัวหน้าเจ้าหน้าที่การลงทุนของ Running Point Capital กล่าวว่า “เรามองเห็นภาคเทคโนโลยี สินค้าอุปโภคและบริโภค และพลังงานที่นำไปสู่โมเมนตัมขาลง ขณะที่หุ้นหลักของผู้บริโภคเป็นผู้นำในขาขึ้น สิ่งเหล่านี้เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่านักลงทุนกำลังเข้าสู่ภาวะขาลง”

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงทั่วกระดาน เนื่องจากนักลงทุนมองข้ามความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในจีน ดัชนีดอลลาร์ร่วงลง 0.566% ยูโรแข็งค่าขึ้น 0.58% อยู่ที่ 1.03 ดอลลาร์

น้ำมันดิบพุ่งขึ้นราว 1% หลังจากซาอุดีอาระเบียกล่าวว่า OPEC+ ยังคงนโยบายลดกำลังการผลิตและอาจลดอีกเพื่อสร้างสมดุลให้กับตลาด น้ำมันดิบเบรนท์เพิ่มขึ้น 1% ปิดที่ 88.36 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ WTI ของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 1.1% อยู่ที่ 80.95 ดอลลาร์

ราคาทองคำทรงตัวเหนือระดับต่ำสุดของเซสชันที่แล้วอยู่ที่1,740.19 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่สัญญาฟิวเจอร์สทองคำของสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.23% สู่ระดับ 1,738.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์

แหล่งข่าว World shares rise, U.S. Treasury yields fall ahead of Fed minutes โดย Reuters