คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติเอกฉันท์ปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% สู่ระดับ 1.25% โดยมองว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องซึ่งภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคภาคเอกชนยังเป็นแรงส่งสำคัญ อย่างไรก็ตามเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอตัวลงทำให้ กนง. ปรับลดคาดการณ์การเติบโตเศรษฐกิจไทยในปีนี้ลงเหลือ 3.2% และปีหน้าลดลงเหลือ 3.7%
นายปิติ ดิษยทัต ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) กล่าวว่า คณะกรรมการฯมีความเห็นว่า เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง โดยภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคภาคเอกชนจะยังเป็นแรงส่งสำคัญต่อเศรษฐกิจในระยะต่อไปและลดทอนผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก
ด้านอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 2566 มีแนวโน้มสูงกว่าประมาณการครั้งก่อนจากราคาพลังงานในประเทศเป็นสำคัญ แต่จะยังโน้มลดลงกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายภายในไตรมาสสามของปีหน้า โดยมองว่า เงินเฟ้อเทียบเดือนต่อเดือนจะปรับลดลงจากฐานที่สูงปีก่อนจากราคาพลังงานและอาหารสดที่จะลดลง
สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจไทยนั้น คณะกรรมการฯประเมินว่า มีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง แต่ยังมีความเสี่ยงจากเงินเฟ้อที่ต้องติดตาม การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเข้าสู่ระดับที่เหมาะสมกับการขยายตัวของเศรษฐกิจอย่างมีเสถียรภาพในระยะยาวจึงเหตุผลสำคัญและควรดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไป
ทั้งนี้ หากแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อมีการเปลี่ยนแปลงไปจากที่ประเมินไว้ คณะกรรมการฯพร้อมจะปรับเงื่อนเวลาในการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายให้เหมาะสมต่อไป
ส่วนประมาณการเศรษฐกิจนั้น ในปีนี้ จะอยู่ที่ 3.2% ลดลงจากคาดการณ์เดิมที่ 3.3% ส่วนปีหน้าจะอยู่ที่ 3.7% จากคาดการ์เดิม 3.8% ส่วนการส่งออกปีนี้จะอยู่ที่ 7.4% จาก 8.2% ส่วนปีหน้าจะอยู่ที่ 1% จาก 1.1%
แหล่งข่าว กนง.ปรับลดจีดีพีปี65-66จับตา2ปัจจัยเสี่ยง, bangkokbiznews, 01 ธ.ค. 2565
COMMENTS