SEARCH

บล.กสิกรไทย เปิด 4 ปัจจัยสำคัญกำหนดทิศทางตลาดหุ้นไทยในช่วงที่เหลือของปี

ทองอาจแตะ 2,000 ดอลลาร์
ทองทรงตัวและอยู่ทิศทางรายสัปดาห์ที่สูงที่สุดตั้งแต่กลางเดือน พ.ย.
GDP จีน Q1 ขยายตัวดีเกินคาดที่ 4.8%

บล.กสิกรไทย ชี้ 4 ปัจจัยสำคัญกำหนดทิศทางหุ้นไทยในช่วงที่เหลือของปีนี้ ได้แก่ การดำเนินนโยบายของ Fed, ความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างประเทศ, การเปิดเมืองของจีน และนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจไทยก่อนเลือกตั้ง ส่วนในระยะสั้นสัปดาห์หน้าต้องติดตามเลือกตั้งกลางเทอมและเงินเฟ้อสหรัฐ
บล.กสิกรไทย ระบุถึงปัจจัยสำคัญที่จะกำหนดทิศทางตลาดหุ้นไทยในช่วงที่เหลือของปี 2565 มี 4 เรื่องสำคัญ ได้แก่

1.) การดำเนินนโยบายของ Fed หลังจากนี้ เชื่อว่า Fed จะรอข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจเรื่องดอกเบี้ย โดยการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินสหรัฐคาดจะช้ากว่าธนาคารกลางประเทศอื่น

2.) Geopolitic risk อาทิ สงครามรัสเซีย – ยูเครน คาดสถานการณ์ยังยืดเยื้อ และอยู่ในช่วงต่อรอง สะท้อนจากการสลับปรับเปลี่ยนการส่งออกธัญพืช จากท่าเรือของยูเครนมุ่งสู่ตลาดโลก รวมถึงฝั่งเอเซีย ล่าสุด กลางสัปดาห์ที่ผ่านมา เกาหลีเหนือยังทดสอบขีปนาวุธ คาดยังเป็นปัจจัย Overhang ต่อตลาด แต่หากไม่มีสถานการณ์เลวร้ายคาดจะไม่มีผลต่อตลาดหุ้นอย่างมีนัยยะ ส่วนผลต่อหุ้นประเมินยังหนุนให้นักลงทุนย้ายฐานการผลิตมาฝั่งอาเซียน รวมถึงไทย มองเป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม

3.) การเปิดเมืองจีน
คาดว่าจะเห็นการผ่อนคลายในปี 2566 แต่หากผ่อนคลายเร็วขึ้น ประเมินหุ้นที่อิงกับจีนจะได้ Sentiment บวก อาทิ
– กลุ่มท่องเที่ยว (AOT, AAV, CENTEL, ERW SPA)
– กลุ่มโรงพยาบาล EKH
– กลุ่มอสังหาฯ (SIRI, ANAN)
– กลุ่มอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ (SCGP, JWD ,PSL)
– กลุ่มนิคมฯ (WHA, AMATA)
– กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม (TKN, SNNP)
– กลุ่มเครื่องสำอาง (DDD, BEAUTY)
– กลุ่มพลังงาน อาทิ PTTEP

4.) นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจไทยก่อนการเลือกตั้ง คาดจะเห็นการผลักดันออกมาในช่วงปลายปีและช่วงต้นปี คาดหุ้นได้ประโยชน์ อาทิ CPN, KTC กลุ่มสื่อ อาทิ PLANB, CK

แหล่งข่าว บล.กสิกรไทย เปิด 4 ปัจจัยสำคัญกำหนดทิศทางตลาดหุ้นไทยในช่วงที่เหลือของปี, bangkokbiznews, 06 พ.ย. 2565

COMMENTS

WORDPRESS: 0
DISQUS: