จากบทความ “ทางออกจากกับดักหนี้ครัวเรือน” โดย ดร.วีรไท สันติประภพ เสนอต่อที่ประชุมสำนักธรรมศาสตร์และการเมือง ราชบัณฑิตสภา เผยแพร่เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2564 ระบุว่าปัญหาหนี้ครัวเรือนที่เร่งตัวเร็วมากในระบบเศรษฐกิจสังคมไทยตั้งแต่ปี 2554 มีหลายสาเหตุ สาเหตุที่สำคัญคือการแข่งขันกันปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคลของสถาบันการเงิน และผู้ประกอบธุรกิจการเงิน non banks หลากหลายประเภท เช่น สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ และสินเชื่อบุคคลเพื่อการอุปโภคบริโภค นโยบายเศรษฐกิจประชานิยมที่เน้นการพักชำระหนี้ให้กับลูกหนี้และเร่งให้สถาบันการเงินของรัฐปล่อยสินเชื่อเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงสั้น ๆ
ปัจจุบันคนไทยเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมเน้นวัตถุนิยม บริโภคนิยม จึงไม่กังวลที่จะก่อหนี้มาเพื่อการอุปโภคบริโภค หนี้ครัวเรือนของไทยกระจุกตัวสูงในสินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภค ซึ่งไม่ส่งผลต่อความสามารถในการหารายได้และความมั่นคงของชีวิตในระยะยาวครัวเรือนไทยมีภาระการผ่อนชำระหนี้ในแต่ละเดือนสูง เพราะสินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภคมีอัตราดอกเบี้ยสูงและระยะเวลาในการผ่อนชำระหนี้สั้นกว่าสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยหรือสินเชื่อเพื่อเช่าซื้อรถยนต์
คนที่ต้องการกู้ยืมเงินเพื่อการอุปโภคที่ไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด ต้องโดนคิดเบี้ยปรับหรืออัตราดอกเบี้ยผิดนัดที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยปกติ บางรายต้องไปกู้เงินนอกระบบที่คิดอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยในระบบมาก ในทางปฎิบัติลูกหนี้รายย่อยเจรจาเพื่อขอประนอมหนี้ หรือปรับโครงสร้างหนี้ของผู้ให้บริการทางการเงินได้ยากมาก เพราะเป็นลูกหนี้รายเล็ก ๆ ไม่มีอำนาจต่อรอง และสัญญาเงินกู้มีแนวโน้มที่จะรักษาสิทธิ์ของผู้ให้บริการทางการเงินมากกว่าลูกหนี้ ลูกหนี้หลายรายมีวงเงินสินเชื่อกับผู้ให้บริการทางการเงินหลายแห่ง ส่งผลให้ผู้บริการทางการเงินแต่ละแห่ง ต้องเร่งติดตามหนี้หรือเร่งฟ้องดำเนินคดีก่อนเจ้าหนี้รายอื่น ถ้ายินยอมผ่อนปรนเงื่อนไขการชำระหนี้ ลูกหนี้กับจะนำเงินไปชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้รายอื่นก่อน การปรับปรุงโครงสร้างหนี้ให้กับลูกหนี้ส่วนบุคคลที่มีเจ้าหนี้หลายราย
แหล่งข่าว “หนี้ครัวเรือนไทย” ความระทมทุกข์ที่รอการแก้ไข (นานมาก)(2), bangkokbiznews, 05 มี.ค. 2565
COMMENTS