มีแนวโน้มเชิงบวกเกิดขึ้นในหมู่นักลงทุนก่อนการประชุมนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐท่ามกลางการวางโอกาสของตลาดต่อการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย
ความเชื่อมั่นในความเสี่ยงค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้นอีกครั้งหลังหุ้นทั่วโลกต่างแตะระดับสูงสุดในรอบเดือน ขณะที่ดอลลาร์เริ่มอ่อนค่าลงจากระดับสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์
ตลาดวางโอกาสว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยนโยบายถึง 75 จุดต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 4 ซึ่งจะทำให้อัตราดอกเบี้ยสะสมอยู่ระหว่างช่วง 3.75%-4.0% ขณะที่ผู้กำหนดนโยบายบางรายเริ่มแสดงข้อคิดเห็นถึงการแตะเบรกเพื่อเลี่ยงภาวะถดถอยที่อาจจะเกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์จาก BlackRock Investment Institute ยังคงมองว่าบรรดาธนาคารกลางจะดำเนินนโยบายที่เข้มงวดต่อไป และในยุโรปก็ยังไม่มีสัญญาณของการผ่อนคลายของอัตราเงินเฟ้อ
ล่าสุดตัวเลขเงินเฟ้อของสหภาพยุโรปอยู่ที่10.7% สูงกว่าตัวเลขของเดือนที่แล้วที่ 9.9% และยังเกินคาดการณ์ของรอยเตอร์ที่ 10.2% นักวิเคราะห์จาก BlackRock วิเคราะห์ว่า “เราคาดว่า ECB จะยังคงขึ้นดอกเบี้ยนโยบายแม้มีภาวะถดถอย โดยจะหยุดต่อเมื่อเห็นความเสียหายในระบบเศรษฐกิจ”
ขณะที่ในวันนี้ (01/11/2022) การสำรวจภาคธุรกิจในเอเชียพบว่า ผลผลิตของโรงงานของภูมิภาคนี้ในเดือนตุลาคมลดลง จากภาวะถดถอยทั่วโลกและนโยบายซีโรโควิดของจีน ซึ่งกำลังกระทบต่ออุปสงค์และโมเมนตัมการฟื้นตัว
พัฒนาการสำคัญที่อาจส่งผลกระทบต่อตลาดในวันนี้
– เฟดเริ่มประชุมนโยบาย 2 วัน
– ดัชนี ISM ของสหรัฐในเดือนตุลาคม
– รายงานรายได้ของ BP และ Rentokil
– รายงานรายได้ของ Pfizer และ Prudential
แหล่งข่าว Morning Bid: Trick or treat? โดย Reuters
COMMENTS