SEARCH

ปีหน้าลงทุนอะไรดี

การขาดแคลนก๊าซในยุโรปผลักดันการส่งออก LNG ของสหรัฐให้สูงเป็นประวัติการณ์
น้ำมันอาจเริ่มลดลง
ทองคำอ่อนค่าลงเมื่อดอลลาร์แข็งค่า

ปีหน้าลงทุนอะไรดี

ปีนี้จัดเป็นปีที่ลงทุนยากมาก เพราะมีตราสารทุนน้อยประเภทที่ลงทุนแล้วได้กำไร ไม่ว่าจะเป็น หุ้นไทย หุ้นโลก หุ้นเมกะเทรนด์ หุ้นกู้ พันธบัตรรัฐบาล หรือ ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ยกเว้นก็แต่เงินดอลลาร์สหรัฐ หรือ ตราสารอนุพันธ์ที่อ้างอิงราคาน้ำมันดิบ
ในฝั่งของหุ้น นับจากต้นปีตลาดกลุ่มประเทศเกิดใหม่ให้ผลตอบแทนติดลบถึง -24% ในขณะที่ตลาดพัฒนาแล้วติดลบ -18% ในจำนวนตลาดหุ้นทั้งหมด มีแค่ 13 ตลาดที่ให้ผลตอบแทนเป็นบวก และมี 2 ตลาดเท่านั้น ที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าค่าเฉลี่ยเงินเฟ้อโลกที่ 7.4%

อย่างที่ทราบกันดี ปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดแรงเทขายในตลาดทุนทั่วโลก มาจากเงินเฟ้อสหรัฐที่พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 40 ปี ส่งผลให้เฟดต้องปรับดอกเบี้ยขึ้นอย่างรุนแรงและเร่งด่วน แบบไม่เคยทำมาก่อนในประวัติศาสตร์ รวมทั้งสงครามรัสเซียยูเครนที่ยืดเยื้อ และมาตรการโควิดที่ยังคงเข้มงวดของจีน ถึงแม้เริ่มมีการผ่อนคลายบ้างแล้ว

ในสถานการณ์แบบนี้ นักลงทุนควรจะทำอย่างไรดี?

ผมเชื่อในทฤษฎีการลงทุนระยะยาว และมองว่าราคาสินทรัพย์หลายประเภทในตลาดทุนโลก เริ่มเข้าสู่จุดที่น่าลงทุน ไม่ว่าจะเป็นหุ้นสหรัฐ หุ้นเทคโนโลยี หุ้นไทย หุ้นกู้เอกชน พันธบัตรรัฐบาล ทองคำ โดยเฉพาะนักลงทุนที่มีระยะเวลาลงทุนมากกว่า 3 ปี น่าจะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีมากได้

แต่สำหรับนักลงทุนที่เน้นลงทุนระยะ 6-12 เดือน ปีหน้าจะยังคงเป็นปีที่ท้าทาย เพราะเป็นช่วงที่เศรษฐกิจโลกชะลอตัว และหลายประเทศขนาดใหญ่มีโอกาสเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย

COMMENTS

WORDPRESS: 0
DISQUS: