REUTERS/Leah Millis/File Photo
สัปดาห์หน้านับเป็นสัปดาห์ที่หลายธนาคารกลางมีกำหนดประชุมนโยบาย โดยเริ่มตั้งแต่ธนาคารกลางสหรัฐ ธนาคารกลางยุโรป และธนาคารกลางญี่ปุ่น ท่ามกลางการคาดการณ์ว่าเฟดจะชะลอการขึ้นดอกเบี้ย ธนาคารกลางยุโรปจะขึ้นดอกเบี้ยต่อ และธนาคารกลางญี่ปุ่น ท่ามกลางสถานการณ์เงินเฟ้อของสหรัฐ ภาวะเศรษฐกิจของจีน และวิกฤติภาคธนาคาร และนี่คือการวิเคราะห์สถานการณ์ภาพรวมในสัปดาห์หน้า
- เฟดอาจยุติขึ้นดอกเบี้ย
สัญญาณการอ่อนตัวของเงินเฟ้อสหรัฐเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในเดือนที่ผ่านมาหลังรายงานการขอรับสวัสดิการว่างงานเพิ่มขึ้นอย่างมาก ส่งผลให้ตลาดเชื่อว่าเฟดอาจยุติการชึ้นอัตราดอกเบี้ยชั่วขณะในการประชุมนโยบายเดือนนี้ แต่คำถามต่อไปของตลาดคือเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยอีกหรือไม่โดยมีคาดการณ์ว่าจะขึ้นอีกเพียงครั้งเดียวเท่านั้นโดยพิจารณาจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของหุ้นสหรัฐในช่วงที่ผ่านมา
- ธนาคารกลางยุโรปขึ้นดอกเบี้ย
ขณะนี้ตลาดกำลังคาดการณ์ว่าธนาคารกลางยุโรปจะขึ้นดอกเบี้ย 25 จุด แต่ก็มีคาดการณ์ว่าวัฏจักรนี้ใกล้จะสิ้นสุดลงแล้วหลังรายงานอัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนเริ่มลดลง การปล่อยสินชื่อกลุ่มธนาคารก็ลดลงอย่างรวดเร็ว
- ธนาคารกลางญี่ปุ่นคงนโยบายการเงิน
Kazuo Ueda ผู้ว่าการธนาคารคนใหม่ยังคงย้ำถึงความจำเป็นในการคงนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายจากอัตราเงินเฟ้อ ราคาผู้บริโภคและระดับค่าจ้างจะยังคงอยู่ในระดับต่ำ ท่ามกลางการใช้จ่ายของภาคครัวเรือนที่ลดลงนับตั้งแต่เดือนเมษายน ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ทำให้เขายังต้องคงนโยบายการเงินเดิมไว้โดยอ้างถึงความต้องการที่จะให้อัตราค่าจ้างเพิ่มขึ้น อัตราเงินเฟ้อมีเสถียรภาพมากขึ้น
- สถานการณ์แง่ร้ายที่อาจเกิดขึ้น
จากสถานการณ์เศรษฐกิจของจีนที่กำลังคลายตัวลงกระตุ้นให้ตลาดคาดหวังว่าทางการจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ในด้านการส่งออกและนำเข้าของจีนซึ่งกำลังชะลอตัวลงอย่างมากในเดือนนี้ คาดการณ์ราคาบ้านใหม่ก็ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือนควบคู่กับยอดขายบ้านก็ลดลง
อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงเฝ้ารอรายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจของจีนที่จะออกมาในวันพฤหัสบดีหน้าซึ่งอาจสะท้อนให้เห็นถึงอัตราการว่างงานที่เพิ่มขึ้น ความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ลดลง และท้ายที่สุดอาจกระตุ้นให้ทางการออกมาตรการกระตุ้นฉบับใหม่ออกมา
- วิกฤตภาคธนาคาร
ข้อตกลงระหว่างธนาคารที่ใหญ่ที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์อาจบรรลุได้ในเร็วๆนี้ โดย UBS คาดว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงในการเข้าซื้อกิจการ Credit Suisse ภายในวันที่ 12 มิถุนายน แต่ก็มีคำถามว่าหลังการควบรวมกิจการมันจะออกมาเป็นอย่างไร ผู้เชี่ยวชาญบางรายแสดงความกังวลว่าหลังการควบรวมแล้วกิจการอาจใหญ่เกินไปและเสี่ยงเกินไปสำหรับประเทศเล็กๆ แม้มีความมั่งคั่งก็ตามเพราะหากเกิดปัญหาขึ้นก็อาจกระทบต่อภาครัฐและหน่วยงานกำกับดูแล
แหล่งข่าว Take Five: Skip, stop or go? โดย Reuters
COMMENTS