สัปดาห์ที่ผ่านมาจบลงด้วยผลตอบแทนพันธบัตรที่พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในสองปีหลังจากข้อมูลการจ้างงานในสหรัฐที่แข็งแกร่งอย่างน่าประหลาดใจ และอาจสนับสนุนแนวโน้มที่แข็งกร้าวของเฟดมากขึ้น หนุนอัตราผลตอบแทนให้สูงขึ้น ทำลายเสน่ห์ของตลาดตราสารทุนหลังจากร่วงหนักในเดือนที่แล้ว ผลสำรวจของรอยเตอร์สระบุว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคของสหรัฐในเดือนมกราคมจะเพิ่มขึ้น 0.5% ส่งผลให้เพิ่มขึ้นต่อปีที่ 7.3% ซึ่งถือเป็นการเพิ่มขึ้นสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 1982
อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ซึ่งเคลื่อนไหวผกผันกับราคา เพิ่มขึ้นประมาณ 40 คะแนนพื้นฐานในปี 2022 เป็น 1.9% เนื่องจากนักลงทุนคาดการขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะเกิดขึ้นอย่างน้อย 5 ครั้งในปีนี้
ดัชนี S&P 500 ลดลงประมาณ 5.6% จนถึงต้นปี ขณะที่ Nasdaq ลดลงเกือบ 10%
ฟิวเจอร์สอัตราส่วนทางการเงิน (P/E) สำหรับ S&P 500 ลดลงเหลือ 19.5 เท่าจาก 21.7 เท่า ณ สิ้นปี 2564 ขณะที่ ฟิวเจอร์สP/E สำหรับภาคเทคโนโลยี S&P 500 ลดลงเหลือ 24.4 จาก 28.5 ตามรายงานของ Refinitiv Datastream
ดัชนีมูลค่า S&P 500 ลดลง 1.4% จนถึงปีนี้ ณ วันพฤหัสบดี เทียบกับการลดลง 10.2% ดัชนีเติบโต S&P 500 ด้วยการเติบโตประจำปีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบสองทศวรรษ
หุ้น Alphabet Inc และ Amazon.com Inc เพิ่มสูงขึ้นหลังจากรายงานรายไตรมาสตามลำดับ ขณะที่ megacap อย่าง Meta Platforms Inc ร่วงลงหลังจากเผยแพร่แนวโน้มผลประกอบการ
สัปดาห์หน้าหลายบริษัทเตรียมรายงานผลประกอบการ อาทิ Walt Disney Co, Coca-Cola และ Twitter Inc โดย Nvidia Corp จะรายงานในสัปดาห์หน้าถัดไป เช่นเดียวกับ Meta Platform ที่สร้างความผิดหวังให้แก่นักลงทุน
Art Hogan หัวหน้านักยุทธศาสตร์การตลาดของ National Securities กล่าวในรายงานการวิจัยว่า “การเริ่มต้นปีนี้ค่อนข้างผันผวน โดยนักลงทุนมีความผันผวนระหว่างความกังวลเกี่ยวกับการตึงตัวของธนาคารกลางสหรัฐฯ และความเชื่อมั่นในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ”
แหล่งข่าว Wall St Week Ahead Inflation data next focus for investors after bond yield spike โดย Reuters
COMMENTS