ดอลลาร์แข็งค่าที่ระดับสูงสุดในรอบ 20 ปีในวันศุกร์ โดยได้รับแรงหนุนจากการเดิมพันที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐและความกังวลเกี่ยวกับการเติบโตในยุโรปและจีน
เยนอยู่ที่ 130.72 ต่อดอลลาร์หลังจากร่วงลงต่ำสุดที่ 131.25 ในชั่วข้ามคืนตามคำมั่นของ BOJ ที่จะซื้อพันธบัตรจำนวนไม่จำกัด ส่งผลให้เงินเยนร่วงเกือบ 7% ในเดือนเมษายน ซึ่งเป็นเดือนที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2016 ขณะที่เฟดตลาดคาดการณ์ว่าจะปรับขึ้นถึง 150 คะแนนพื้นฐาน (bps) ในการประชุม 3 ครั้ง และทำให้เงินทุนไหลเข้าดอลลาร์
ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ทศวรรษที่ 103.93 จากการอ่อนค่าของเงินเยน อยู่ที่ 103.53 และเพิ่มขึ้นมากกว่า 5.3% ในเดือนเมษายน ซึ่งหากยืนระยะได้นั่นจะทำให้กำไรรายเดือนดีที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2012 เงินยูโรร่วงลงสู่ 1.05 ดอลลาร์ เป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปีในวันพฤหัสบดี และล่าสุดปิดที่ 1.0511 ดอลลาร์
นายลี ฮาร์ดแมน นักวิเคราะห์สกุลเงินของ MUFG Bank กล่าวว่า เช่นเดียวกับเงินเยน ค่าเงินยูโรก็ถูกประเมินต่ำเกินไปเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ เงินยูโรร่วงกว่า 5% สำหรับเงินดอลลาร์ในเดือนเมษายนและ 7% นับตั้งแต่รัสเซียบุกยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์
สเตอร์ลิงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 22 เดือนที่ 1.2412 ดอลลาร์ และลดลง 5% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ในเดือนเมษายน ซึ่งถือว่าแย่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2016
การล็อกดาวน์จากโควิด-19 ที่ดึงออกมาได้ทำให้เศรษฐกิจจีนชะลอตัวลงแล้ว หยวนร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 18 เดือนที่ 6.6400 ต่อดอลลาร์ และลดลงสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 4.3% ต่อเดือน
ดอลลาร์ออสเตรเลียทำระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือนที่ 0.7055 ดอลลาร์ในชั่วข้ามคืนก่อนที่จะฟื้นตัวเป็น 0.7123 ดอลลาร์ในการซื้อขายช่วงเช้าของวันศุกร์ ออสซี่ร่วงลง 4.8% ในเดือนเมษายน ดอลลาร์นิวซีแลนด์กำลังมุ่งหน้าสู่เดือนที่เลวร้ายที่สุดในรอบ 7 ปี โดยร่วงลง 6.4% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐและทรงตัวที่ 0.6498 ดอลลาร์ในวันศุกร์
Bitcoin อยู่ที่ 39,874 ดอลลาร์
แหล่งข่าว Dollar towers at two-decade high on growth woes, Fed outlook โดย Reuters
COMMENTS