หุ้นของ Cisco ร่วงลง 13.7% หลังปรับลดแนวโน้มการเติบโตของรายรับในปี 2022 หุ้น Apple และผู้ผลิตชิป Broadcom ลดลง 2.5% และ 4.3% Twitter เพิ่มขึ้น 1.2% หลังจาก Bloomberg รายงานว่าข้อตกลงมูลค่า 44 พันล้านดอลลาร์กำลังดำเนินการตามที่คาดไว้โดยที่ไม่มีการเจรจาราคาใหม่
ดัชนีผู้บริโภคหลักของ S&P ร่วงลง 2% สู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม เนื่องจากบริษัทค้าปลีกต้องเผชิญกับราคาสินค้าที่สูงขึ้นซึ่งส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อ Kohl’s Corp กลายเป็นผู้ค้าปลีกรายล่าสุดที่ได้รับผลกระทบจากอัตราเงินเฟ้อสูงในรอบสี่ทศวรรษเนื่องจากห้างสรรพสินค้าปรับลดประมาณการกำไรทั้งปี อย่างไรก็ตามหุ้นของบริษัทฯ ดีดตัวขึ้นกว่า 4% หลังจากร่วงลง 11% ในช่วงก่อนหน้า
ดัชนี S&P 500 ลดลงประมาณ 18% จากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากนักลงทุนปรับตัวเข้ากับภาวะเงินเฟ้อที่แข็งแกร่ง ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ และสภาวะทางการเงินที่ตึงตัวขึ้นจากเฟด
นักยุทธศาสตร์ของโกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่ามีโอกาส 35% ที่เศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในอีกสองปีข้างหน้า ขณะที่สถาบันการลงทุน Wells Fargo คาดว่าสหรัฐจะถดถอยเล็กน้อยในช่วงปลายปี 2022 และต้นปี 2023
ดัชนี S&P 500 ลดลง 0.58% ปิดเซสชั่นที่ 3,900.79 จุด ดัชนี Nasdaq ลดลง 0.26% มาอยู่ที่ 11,388.50 จุด ขณะที่ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ลดลง 0.75% มาอยู่ที่ 31,253.13 จุด
ดัชนีความผันผวน CBOE หรือที่รู้จักในชื่อมาตรวัดความกลัวของวอลล์สตรีทร่วงลงสู่ 29.5 จุดในวันพฤหัสบดี หลังจากแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ 12 พฤษภาคมก่อนหน้านี้ในเซสชั่น
ปริมาณการแลกเปลี่ยนในสหรัฐอยู่ที่ 12.7 พันล้านหุ้น เทียบกับค่าเฉลี่ย 13.4 พันล้านในช่วง 20 วันทำการล่าสุด
S&P 500 โพสต์เสียงสูงสุดในรอบ 52 สัปดาห์ใหม่ 1 จุดและระดับต่ำสุดใหม่ 43 จุด Nasdaq Composite ทำสถิติสูงสุดใหม่ 12 จุดและระดับต่ำสุดใหม่ 326 จุด
แหล่งข่าว Wall Street ends lower as Cisco and Apple sink โดย Reuters
COMMENTS