ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับขึ้นในวันศุกร์ที่ผ่านมา ขณะที่ดอลลาร์อ่อนค่าลงจากระดับสูงสุดในรอบ 24 ปีเมื่อเทียบกับเงินเยน หลังรายงาน NFP ออกมาอ่อนแอกว่าคาดการณ์ ขณะที่ รัสเซียประกาศยกเลิกเส้นตายเพื่อกลับมาปล่อยก๊าซไปยังเยอรมนีอีกครั้งซึ่งสร้างความกังวลด้านการอุปทานพลังงานในภูมิภาค
สหรัฐฯ เผยรายงาน NFP ที่ออกมาในวันศุกร์เย็นลง แต่การเติบโตของค่าจ้างในระดับปานกลางและอัตราการว่างงานที่เพิ่มขึ้นเป็น 3.7% บ่งชี้ว่าอาจมีแรงกดดันน้อยลงที่จะทำให้เฟดต้องขึ้นดอกเบี้ย 75 จุดในการประชุมเดือนนี้ ดัชนี S&P 500 ขึ้นราว 1% ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ลดลง 1.1% เช่นเดียวกับ Nasdaq Composite ลดลง 1.3%
นักวิเคราะห์บางรายมองว่าจากรายงาน NFP ที่ออกมานั้น ตลาดยังคงถกเถียงว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 50 จุดหรือ 75 จุด “เรายังคงคาดว่าเฟดจะปรับขึ้น 50 จุดในเดือนกันยายนและพฤศจิกายน” นักวิเคราะห์จาก Bank of America กล่าวในหมายเหตุถึงลูกค้า แต่ในด้าน รมต.คลังสหรัฐฯ อย่าง Janet Yellen ยังยืนยันว่าอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐยังสูงเกินไป และเป็นหน้าที่ของเฟดที่จะต้องลดมันลงมา
หุ้นยุโรปพุ่งขึ้น 2% จากระดับต่ำสุดในรอบ 6 สัปดาห์ของวันพฤหัสบดี ขณะที่ดัชนี FTSE พุ่งขึ้น 1.9% ดัชนีหุ้นโลกของ MSCI พุ่งขึ้น 0.5% แต่ลดลง 2.7% ในรายสัปดาห์ ซึ่งนับเป็นสัปดาห์ที่ 3 ต่อเนื่อง
การล็อคดาวน์ครั้งใหม่ในจีนทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการเติบโตทั่วโลก ขณะที่ราคาพลังงานที่สูงขึ้นก็สร้างความกังวลเช่นกัน Giles Coghlan หัวหน้านักวิเคราะห์สกุลเงินของ HYCM กล่าวว่า “ตลาดให้ความสำคัญว่าเฟดจะดำเนินนโยบายแข็งกร้าวแค่ไหน” ซึ่งแน้วโน้มที่แข็งกร้าวจากเฟดนั้นเริ่มออกมาตั้งแต่พาวเวลล์กล่าวสุนทรพจน์ที่ Jackson Hole
BofA กล่าวในหมายเหตุว่า กองทุนตราสารหนี้พบว่านักลงทุนเริ่มดึงเงินออกมาเป็นสัปดาห์ที่สองติดต่อกัน โดยผลสำรวจแสดงเมื่อวันพฤหัสบดีว่ากิจกรรมการผลิตทั่วยูโรโซนลดลงอีกครั้งเมื่อเดือนที่แล้ว เนื่องจากผู้บริโภครู้สึกว่าการบีบตัวจากวิกฤตค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้นทำให้ลดการใช้จ่ายลง
ดอลลาร์ทำสถิติสูงสุดในรอบ 24 ปีที่ระดับ 140.80 ขณะที่รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของญี่ปุ่น ชุนิจิ ซูซูกิส่งสัญญาณถึงการดำเนินการที่ “เหมาะสม” เพื่อควบคุมความผันผวน
ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ทรงตัวที่ 109.58 หลังจากแตะระดับสูงสุดในรอบ 20 ปีในช่วงก่อนหน้า การหยุดชะงักในการขึ้นค่าเงินดอลลาร์ช่วยให้เงินยูโรดีดตัวขึ้น 0.1% เป็น 0.99575 ดอลลาร์
ในตลาดตราสารหนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 2 ปีของสหรัฐลดลงมาอยู่ที่ 3.3955% หลังจากแตะระดับสูงสุดในรอบ 14 ปีที่ 3.5510% ในวันพฤหัสบดี อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของสหรัฐลดลงมาอยู่ที่ 3.1950%
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของเยอรมนีอยู่ที่ 1.520% ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือนล่าสุด เนื่องจากตลาดคาดการณ์ว่า ECB จะขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 75 จุดในสัปดาห์หน้า “
ดัชนีหุ้นเอเชียแปซิฟิกยกเว้นญี่ปุ่นร่วงลง 0.6% ส่งผลให้กลายเป็นผลงานรายสัปดาห์ที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายน โดยร่วงลง 3.6% ดัชนี Nikkei ทรงตัวและดัชนีบลูชิปลดลง 0.5%
แหล่งข่าว Stock rally fizzles, dollar retreats as U.S. jobs glow fade โดย Reuters
COMMENTS