SEARCH

นักลงทุนบางรายเกรงว่าเฟดอาจขึ้นดอกเบี้ยเกินความจำเป็น

สกุลเงินดิจิทัลร่วงจากการสร้างฐาน
Bitcoin สะท้อนแรงเชิงบวกแรกในตลาด
Bitcoin พุ่งท่ามกลางโกลาหลในภาคธนาคาร

ไม่กี่เดือนที่ผ่านมา นักลงทุนบางรายเกรงว่าเฟดไม่ต่อสู้กับเงินเฟ้อเพียงพอ หลังจากนั้นเฟดเริ่มดำเนินการเชิงรุกมากขึ้นจนบางคนกลัวว่าภาวะถดถอยจะเกิดขึ้นเร็วเกินไป

หลังจากรายงานข้อมูลทางเศรษฐกิจออกมาหลายชุดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว วันศุกร์ที่ผ่านมาอัตราดอกเบี้ยฟิวเจอร์สเริ่ม price in โอกาสถึง 20% สำหรับการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของเฟดที่ 100 จุดในการประชุมนโยบายในสัปดาห์นี้ ซึ่งสูงกว่าตัวเลขที่ตลาดกำลังวิเคราะห์ที่ 50-75 จุดในช่วงต้นเดือนกันยายน พร้อมปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยสะสมไว้ที่ 4.4% สิ่งที่เกิดขึ้นนี้เหมือนจะมาไกลเกินกว่าช่วงต้นปีที่นักลงทุนบางรายมองว่าเฟดดำเนินการช้าเกินไป

“เราทุกคนต่างกลัวการเข้มงวดทางนโยบายจนเกินไปจะทำให้เกิดภาวะถดถอยหรือ hard landing” Jeffrey Sherman รองหัวหน้าเจ้าหน้าที่การลงทุนของกองทุนตราสารหนี้ DoubleLine กล่าว

ทว่าสัญญาณที่น่ากังวลนั้นเริ่มออกมาชัดเจนยิ่งขึ้น หลัง FedEx รายงานรายได้ที่ตกต่ำกว่าคาดการณ์เป็นอย่างมาก หุ้นบริษัทฯ ก็ร่วงลงมากกว่า 20% แล้วนับตั้งแต่ต้นปี กอปรกับคำเตือนของธนาคารโลกและ IMF ของการเติบโตที่ชะลอตัวและภาวะถดถอยทั่วโลก

Jeffrey Gundlach ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ DoubleLine ซึ่งเคยวิพากษ์วิจารณ์เฟดในเดือนมิถุนายนว่าดำเนินนโยบายช้าเกินไป กล่าวกับ CNBC เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า เฟดอาจขึ้นดอกเบี้ยเร็วเกินไป

ขณะที่ Ray Dalio ผู้ก่อตั้ง Bridgewater Associates ซึ่งเป็นกองทุนเฮดจ์ฟันด์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เขียนในโพสต์ของ Linkedin เมื่อเร็วๆ นี้ว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายสะสมที่ 4.5% อาจทำให้หุ้นร่วงลงราว 20%

Steven Oh หัวหน้าฝ่ายสินเชื่อและตราสารหนี้ระดับโลกและเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง Leveraged Finance ระบุว่า “มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นที่เฟดจะดำเนินนโยบายเกินไปเพื่อคุมเงินเฟ้อที่เรื้อรัง ซึ่งจะสร้างความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะถดถอยมากขึ้น”

ความกังวลเรื่องการเข้มงวดของเฟดมีส่วนทำให้ดัชนี S&P 500 ลดลง 19% ในปีนี้ พันธบัตรทั่วโลกร่วงลงอย่างรวดเร็วโดยได้รับแรงหนุนจากการขายพันธบัตรที่สูงชันในคลัง
เจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟดกล่าวว่าเราจะสามารถ soft landing โดยไม่ต้องมีการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ พร้อมย้ำถึงความพยายามที่จะต่อสู้กับเงินเฟ้อ

Jean Boivin หัวหน้า BlackRock Investment Institute กล่าวว่า “ธนาคารกลางจะต้องเลือกระหว่างการปล่อยให้เงินเฟ้อขึ้นอยู่แบบนั้นหรือการเติบโตที่ชะลอตัวลง” โดยที่ BlackRock คาดการณ์ว่าในปีหน้าอัตราดอกเบี้ยนโยบายสะสมของเฟดจะอยู่ที่ 4.50% หรือสูงกว่านั้น

Andrew Patterson นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสระดับนานาชาติใน Vanguard เชื่อว่าเฟดอาจทำผิดพลาดสำหรับการดำเนินนโยบายเชิงรุกเกินไป พร้อมคาดการณ์ถึง 65% สำหรับภาวะถดถอยในอีก 24 เดือนข้างหน้า

แต่ในอีกฝั่งหนึ่ง นักลงทุนบางรายเชื่อว่า เศรษฐกิจจะมีความยืดหยุ่นเพียงพอที่จะทนต่อการดำเนินนโยบายเชิงรุก จากข้อมูลการจ้างงานในเดือนสิงหาคมของสหรัฐที่เติบโตเหนือคาดการณ์
Steve Bartolini ผู้จัดการพอร์ตการลงทุนของ T Rowe Price US กล่าวว่า “ความน่าจะเป็นของ soft landing และ hard landing ต่างลดลงเช่นกัน” จากสัญญาของความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจ

อย่างไรก็ตาม สัญญาณของตลาดเริ่มสะท้อนความกังวลเพิ่มขึ้น อาทิ การพลิกกลับของเส้นอัตราผลตอบแทน 2 ปีและ 10 ปี ซึ่งมักจะเกิดขึ้นก่อนภาวะถดถอย John Taylor ซีอีโอของ Taylor Global Vision เชื่อว่าจะเกิดความเจ็บปวดมากขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

แหล่งข่าว Some investors fear Fed will tighten rates too far as inflation bites โดย Reuters

COMMENTS

WORDPRESS: 0
DISQUS: 0