หุ้นเอเชียร่วง บอนด์ยีลด์พุ่งหลังเฟดส่งสัญญาณเหยี่ยว

อัตราผลตอบแทนของกระทรวงการคลังสหรัฐพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบหลายปี แต่ตลาดหุ้นแดงทั้งกระดานหลังจากสายเหยี่ยวอย่าง Lael Brainard กล่าวเมื่อคืนนี้ว่าเธอคาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะขึ้นและงบดุลจะลดลงอย่างรวดเร็วเพื่อทำให้นโยบายการเงินของสหรัฐ “เป็นกลางมากขึ้น” ในปลายปีนี้

ดัชนี Nikkei ของญี่ปุ่นร่วง 1.5% ขณะที่ดัชนีร่วงลง 0.8% และดัชนีออสเตรเลียร่วง 1.2%

จีนขยายเวลาล็อกดาวน์ในเซี่ยงไฮ้เมื่อวันอังคาร ตลาดจับตารายงานดัชนีกิจกรรมภาคบริการของเอกชนของจีน ตลาดยังรอรายงานการประชุมของเฟด พร้อมคาดการณ์ขึ้นดอกเบี้ย 50 จุดในการประชุมครั้งต่อไปในเดือนพฤษภาคม

Kyle Rodda นักวิเคราะห์ตลาดของ IG ในเมลเบิร์นกล่าวว่า “ขณะนี้ถือว่ามีโอกาส 80% ที่เฟดจะเคลื่อนไหวแบบนั้น และอาจปรับขึ้น 50 bps ในเดือนมิถุนายนเช่นกัน ซึ่งอาจจุดประกายความผันผวนอีก”

สหรัฐฯ และพันธมิตรจะกำหนดมาตรการคว่ำบาตรใหม่ต่อธนาคารและเจ้าหน้าที่ของรัสเซียในวันพุธ และห้ามการลงทุนใหม่ในรัสเซีย

บอนด์ยีลด์อายุ 10 ปียังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ปีที่ 2.6100% ล่าสุดอยู่ที่ 2.5973%
ดัชนีค่าเงินดอลลาร์แตะ 99.587 เป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคม 2020
เงินดอลลาร์ยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 123.90 เยน เนื่องจาก BOJ ควบคุมผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีให้ต่ำกว่า 0.25%
เงินยูโรลดลง 0.1% ที่ 1.0892 ดอลลาร์

ราคาทองคำสปอตซื้อขายลดลง 0.3% ที่ 1,917.92 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ราคาน้ำมันร่วงลงจากแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น และความกังวลต่อการแพร่ระบาด น้ำมันดิบสหรัฐลดลง 0.8% ที่ 101.13 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล น้ำมันดิบเบรนท์ปิด 0.7% ที่ 105.89 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

แหล่งข่าว Asian stocks skid, bond yields rise after hawkish Fed comments โดย Reuters