สำหรับวันนี้ ตลาดจะรอติดตามรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ โดยตลาดประเมินว่าภาคการบริการจะสามารถขยายตัวต่อเนื่อง สะท้อนผ่านดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการบริการโดย ISM (Services PMIs) ในเดือนธันวาคม ที่ระดับ 67 จุด (ดัชนีเกิน 50 จุด หมายถึง ภาวะขยายตัว)
นอกจากนี้ ตลาดจะรอติดตามถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟดเพื่อประเมินมุมมองของเจ้าหน้าที่เฟดต่อแนวโน้มเศรษฐกิจและทิศทางการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินของเฟด หลังจากที่รายงานการประชุมเฟดล่าสุด ได้ส่งสัญญาณว่า เฟดอาจปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายได้เร็วกว่าคาด (ตลาดมองมีโอกาสมากกว่า 70% ที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมีนาคม จากที่ตลาดเคยมองว่า เฟดจะคงดอกเบี้ยในการประชุมดังกล่าว)
สำหรับแนวโน้มค่าเงินบาท เรามองว่า เงินบาทยังมีแนวโน้มที่แกว่งตัว Sideways ในกรอบเดิมต่อ โดยเงินบาทอาจมีแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าจากการรีบาวด์ขึ้นของเงินดอลลาร์ หลังตลาดเริ่มมองว่าเฟดอาจขึ้นดอกเบี้ยได้เร็วกว่าคาด
ขณะเดียวกันปัญหาการระบาดของโอมิครอนในประเทศที่ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วก็ยังเป็นปัจจัยที่กดดันให้เงินบาทอยู่
อย่างไรก็ดี เป็นที่น่าสนใจว่า นักลงทุนต่างชาติยังไม่ได้แสดงท่าทีกังวลสถานการณ์การระบาดมากนัก ดังจะเห็นได้จากการที่นักลงทุนต่างชาติยังเดินหน้าซื้อหุ้นไทยสุทธิต่อเนื่อง อีกทั้งล่าสุด นักลงทุนต่างชาติยังได้เข้าซื้อบอนด์ระยะสั้นสุทธิ กว่า 1.3 หมื่นล้านบาท ซึ่งอาจสะท้อนการเริ่มกลับมาเก็งกำไรเงินบาทฝั่งแข็งค่าอีกครั้งของผู้เล่นต่างชาติ
แหล่งข่าว ‘เงินบาท’ วันนี้เปิด’อ่อนค่า’ ที่33.26บาทต่อดอลลาร์, bangkokbiznews, 06 ม.ค. 2565
COMMENTS