วอลล์สตรีทเข้าสู่ช่วงตลาดหมี นักลงทุนหวังเฟดอาจเข้าหนุน

ความมุ่งมั่นของเฟดกำลังดึงวอลล์สตรีทร่วงลง พร้อมคำเตือนว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยจะยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น ประเด็นคือสิ่งที่เรียกว่า Fed put หรือความเชื่อของนักลงทุนว่าเฟดจะดำเนินการหากหุ้นตกต่ำเกินไปเหมือนที่ผ่านมา แต่คราวนี้ การที่เฟดยืนกรานว่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยให้สูงเท่าที่จำเป็นเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นกำลังสร้างความเจ็บปวดมากขึ้นสำหรับนักลงทุน

การสำรวจล่าสุดโดย BofA Global Research แสดงให้เห็นว่าขณะนี้ผู้จัดการกองทุนคาดว่า S&P 500 จะอยู่ที่ 3,529 จุด เทียบกับที่คาดการณ์ไว้ที่ 3,700 จุดในเดือนกุมภาพันธ์ ทั้งนี้ ดัชนีซึ่งปิดเมื่อวันศุกร์ที่ 3,901.36 ลดลงเกือบ 19% จากระดับสูงสุดของปีนี้

Jason England ผู้จัดการพอร์ตโฟลิโอตราสารหนี้ทั่วโลกของ Janus Henderson Investors เชื่อว่าดัชนีจำเป็นต้องร่วงลงอย่างน้อยอีก 15% เพื่อให้เฟดชะลอการตึงตัวได้ เนื่องจากการสนับสนุนนโยบายการเงินอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนช่วยให้หุ้นขึ้นกว่าเท่าตัวจากระดับต่ำสุดในเดือนมีนาคม 2020 ทั้งนี้ เฟดได้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว 75 จุดและคาดขึ้นอีก 193 จุดในปีนี้

บางคนกังวลว่าเฟดจะสร้างความผันผวนที่รุนแรง นักวิเคราะห์จากสถาบันการเงินระหว่างประเทศกล่าวว่าหุ้นอาจถูกเทขายแบบเดียวในช่วงปลายปี 2018 แต่ยังมีสัญญาณของความเชื่อมั่นที่ยืดหยุ่นในหมู่นักลงทุน ตัวอย่างเช่น ดัชนีความผันผวน Cboe หรือที่รู้จักในชื่อดัชนีความกลัวของวอลล์สตรีทและกองทุน ARK ARKK.K มีการไหลเข้าในเชิงบวกสุทธิ 977 ล้านดอลลาร์ในช่วงหกสัปดาห์ที่ผ่านมา

ขณะที่นักลงทุนบางคนกล่าวว่าสิ่งเหล่านี้เป็นสัญญาณว่าตลาดยังไม่ถึงจุดต่ำสุด Terri Spath หัวหน้าเจ้าหน้าที่การลงทุนของ Zuma Wealth เชื่อว่านักลงทุนบางส่วนกำลังกลับเข้าสู่ส่วนต่าง ๆ ของตลาดหุ้นที่ขาดทุนเกินปกติ

แหล่งข่าว Wall St Week Ahead As bear market looms, battered Wall St seeks elusive ‘Fed put’ โดย Reuters