สกุลเงินดิจิทัลร่วงลงอย่างรวดเร็วนับตั้งแต่เกิดการเผาไหม้ในปี 2021 ซึ่งเป็นปีที่ Bitcoin ทำจุดสูงสุดที่ 68,990 ดอลลาร์ แต่ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาร่วงกลับไปที่ราว 20,000 ดอลลาร์
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ความผันผวนในกรอบ 20 วันของสกุลเงินดิจิทัลลดลงต่ำกว่าดัชนี Nasdaq และ S&P 500 เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2020 ตามข้อมูลจากบริษัทวิจัยคริปโต Kaiko
หุ้นและคริปโตเคอเรนซีร่วงลงอย่างหนักในปีนี้จากการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของเฟดและการแข็งค่าของดอลลาร์ แต่ขณะนี้ราคาของ Bitcoin เริ่มที่จะทรงตัวซึ่งสำหรับนักลงทุนบางรายมองว่าเป็นสัญญาณที่ดี “Bitcoin เคลื่อนไหวในกรอบ 18,000-25,000 ดอลลาร์เป็นเวลา 4 เดือนแล้ว ขณะที่ดัชดอลลาร์เคลื่อนไหวอยู่ที่ด้านบนตลอด” Vijay Ayyar หัวหน้าฝ่ายแลกเปลี่ยนคริปโตของ Luno บอก CNBC
เป็นที่ทราบกันว่าสกุลเงินดิจิทัลร่วงลงอย่างรุนแรงในปีนี้ โดยมูลค่าหายไปเกือบ 2 ล้านล้านนับตั้งแต่แตะจุดสูงสุดในการแรลลี่เมื่อปี 2021 เฉพาะ Bitcoin มูลค่าหายไปเกือบ 70% จากจุดสูงสุดที่ทำในเดือนพฤศจิกายน 2021
การร่วงลงนี้เรียกว่า “crypto winter” ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเชื่อมโยงไปกับการกระชับนโยบายของเฟด อย่างไรก็ตาม ขณะนี้นักลงทุนบางรายเชื่อว่าน้ำแข็งในฤดูหนาวกำลังละลายลง
Vijay Ayyar ชี้ว่า เริ่มเห็นสัญญาณของ “การเข้าสะสม” โดยนักลงทุนสถาบันเริ่มวางเดิมพันใน Bitcoin มากขึ้น “ช่วงนี้ทำให้ Bitcoin น่าเบื่อ แต่ก็ช่วงที่รายย่อยเริ่มออกจากตลาดขณะที่นักลงทุนที่ฉลาดเริ่มเข้าสะสม”
Goldman Sachs ให้การแนะนำว่าเราอาจใกล้ถึงจุดสิ้นสุดของช่วง “ขาลงที่สำคัญอย่างยิ่ง” ในรอบล่าสุดของการเคลื่อนไหวที่เผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดี นักวิเคราะห์กล่าวว่ามีความคล้ายคลึงกับการซื้อขาย Bitcoin ในเดือนพฤศจิกายน 2018 ที่ราคาของเหรียญจะนิ่งชั่วขณะก่อนที่จะพุ่งขึ้นต่อเนื่อง
ขณะที่ แรงกดดันในการเทขายก็ลดลงเช่นกัน เนื่องจากนักขุด Bitcoin เริ่มลดการเทขาย ซึ่งบ่งชี้ว่าสิ่งที่เลวร้ายที่สุดอาจจะจบลง Matteo Perruccio นักวิเคราะห์ของ Wave Financial คาดว่าไตรมาสที่สองของปีหน้าจะเป็นช่วงที่ฤดูหนาวของคริปโตจบลง “เราจะเห็นความล้มเหลวของรายย่อยใน DeFi อีกมาก ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการพัฒนาอุตสาหกรรม”
แหล่งข่าว Bitcoin’s trading has become ‘boring’ — but that’s not necessarily a bad thing โดย CNBC
COMMENTS