SEARCH

ผู้ป่วยโควิดของจีนล้นโรงพยาบาลแล้ว

อ่านเศรษฐกิจไทยปี 65 : โอกาส-อุปสรรค ฟื้นกลับมา | ทีดีอาร์ไอ
สร้างไทยสู่ ‘ฟินเทค ฮับ’ เพิ่มโอกาสตลาดเงิน-ตลาดทุน
IMF ระบุว่าหนี้ทั่วโลกอยู่เหนือระดับก่อนเกิดโรคระบาด

Howard Bernstein แพทย์ที่ทำงานมากกว่า 30 ปีในหน่วยการแพทย์ฉุกเฉินในปักกิ่งเผยว่าเขาไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน ผู้ป่วยมาถึงโรงพยาบาลในจำนวนที่เพิ่มมากขึ้น โดยเกือบทั้งหมดเป็นผู้สูงอายุ และหลายคนไม่สบายมากด้วยอาการของโควิดและปอดอักเสบ

ข้อคิดเห็นของเขาคล้ายคลึงกันกับเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ทั่วประเทศจีนซึ่งกำลังรับมือกับจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก ภายหลังการผ่อนคลายนโยบายที่ตามมาด้วยกระติดเชื้อทั่วประเทศ

Bernstein ยังเสริมว่า “โรงพยาบาลเต็มไปด้วยปัญหาทั้งจากบนลงล่าง” โดยโรงพยาบาลเอกชน Beijing United Family Hospital ทางตะวันออกของเมืองหลวง เผยว่า “ห้องไอซียูเต็มแล้ว” เช่นเดียวกับแผนกฉุกเฉิน คลินิกไข้ และหอผู้ป่วยอื่นๆ

Sonia Jutard-Bourreau วัย 48 ปี หัวหน้าเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ของโรงพยาบาลเอกชน Raffles ในกรุงปักกิ่ง กล่าวว่า จำนวนผู้ป่วยอยู่ที่ 5-6 เท่าของระดับปกติ โดยอายุเฉลี่ยของผู้ป่วยก็เพิ่มขึ้นประมาณ 40 ปีเป็นมากกว่า 70 ปี พร้อมเสริมว่า “ผู้ป่วยส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน”

Jutard-Bourreau ซึ่งทำงานในประเทศจีนมาประมาณ 10 ปี เช่นเดียวกับ Bernstein กลัวว่าคลื่นลูกที่เลวร้ายที่สุดในปักกิ่งยังมาไม่ถึง

แพทย์รายหนึ่งที่ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์เผยว่าพวกเขากังวลกับผู้สูงอายุมากที่สุดเพราะผู้สูงอายุหลายหมื่นคนอาจเสียชีวิต ตามการประมาณการของผู้เชี่ยวชาญ ข้อคิดเห็นดังกล่าวไปในทิศทางเดียวกับ Airfinity บริษัทข้อมูลด้านสุขภาพในอังกฤษที่ประเมินว่าอาจมีผู้คนมากกว่า 5,000 คนเสียชีวิตในแต่ละวันจากโรคโควิด-19 ซึ่งตัวเลขนั้นแตกต่างกับตัวเลขที่ทางการเปิดเผยเป็นอย่างมาก

จีนไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 บนแผ่นดินใหญ่เป็นเวลา 6 วันจนถึงวันอาทิตย์ ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของจีนระบุเมื่อวันอาทิตย์ แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าจีนได้จำกัดคำจำกัดความสำหรับการจำแนกประเภทการเสียชีวิตว่าเกี่ยวข้องกับโควิด โดยนับเฉพาะการตายที่เกี่ยวข้องกับโรคปอดอักเสบจากโควิดหรือระบบหายใจล้มเหลว ซึ่งทำให้บรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขทั่วโลกต้องประหลาดใจ

แหล่งข่าว China’s COVID cases overwhelm hospitals โดย Reuters

COMMENTS

WORDPRESS: 0
DISQUS: