SEARCH

ชาวจีนกังวลญาติผู้สูงอายุอาจติดหลังจากช่วงวันหยุด

หุ้นถูกเทขายต่อเนื่อง ดอลลาร์แข็งค่าจากความกลัวการเติบโตทั่วโลก
ราคาน้ำมันขึ้นอย่างจำกัดท่ามกลางการแพร่ระบาดในจีน
ก.ล.ต.สั่งแจงข้อมูลทรัพย์สินลูกค้า Zipmex ยันนำเงินทุนมาชดใช้ความเสียหาย

REUTERS/Brenda Goh

ประชาชนในจีนเริ่มมีความกังวลว่าญาติผู้สูงอายุอาจรับการแพร่ระบาดจากการเดินทางกลับบ้านเกิดของประชาชนในช่วงวันหยุด ซึ่งสอดคล้องต่อคำเตือนของ WHO ว่าจะเป็นชะนวนของการแพร่ระบาดอย่างรุนแรงอีกครั้ง

วันหยุดปีใหม่หรือวันตรุษจีนซึ่งจะเริ่มอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 21 มกราคมภายหลังที่รัฐบาลคลายมาตรการคุมเข้ม แต่ขณะนี้จีนกำลังเผชิญการแพร่ระบาดระลอกใหม่ซึ่งทำให้จำนวนผู้ป่วยกลับมาล้นโรงพยาบาลขณะที่ผู้สูงอายุจำนวนมากยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนอย่าครบโดส

ในด้านผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพชั้นนำของจีนก็เริ่มออกมาห้ามเยี่ยมญาติผู้ใหญ่ในช่วงวันหยุดที่จะถึงซึ่งคาดว่าจะมีผู้คนหลายล้านคนเดินทางจากเมืองใหญ่ไปยังหมู่บ้านในชนบท

ขณะที่ด้าน WHO และรัฐบาลต่างประเทศวิจารณ์รัฐบาลจีนว่ามีการรายงานเกี่ยวกับความรุนแรงของการแพร่ระบาดอย่างไม่ตรงไปตรงมา ส่งผลให้หลายประเทศเพิ่มมาตรการรองรับผู้โดยสายขาเข้าที่เดินทางมาจากจีนแผ่นดินใหญ่

จีนรายงานผู้เสียชีวิตวันละ 5 คนหรือน้อยกว่าในช่วงเดือนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นตัวเลขที่ไม่สอดคล้องกับจำนวนการต่อคิวเพื่อทำฌาปนกิจศพผู้เสียชีวิต โดย Liang Wannian หัวหน้าคณะผู้เชี่ยวชาญโควิด สังกัดหน่วยงานสาธารณสุขแห่งชาติ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า การตายจะนับได้อย่างแม่นยำหลังจากการระบาดสิ้นสุดลงเท่านั้น

ตัวเลขข้างต้นสวนทางกับที่ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพระหว่างประเทศคาดการณ์ว่ามีผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 อย่างน้อย 1 ล้านคนในปีนี้ น้อยกว่าตัวเลขที่ทางการรายงานอยู่ที่ 5,000 รายตั้งแต่เริ่มแพร่ระบาด

ทั้งนี้ หากมองข้ามประเด็นการแพร่ระบาดออกไป การ re-opening ของจีนอีกครั้งจะช่วยประคองเศรษฐกิจที่มีมูลค่ากว่า 17 ล้านล้านดอลลาร์ซึ่งช่วงที่ผ่านมามีการเติบโตต่ำที่สุดในรอบเกือบครึ่งศตวรรษ

สกุลเงินและหุ้นเอเชียเด้งรับ โดยทำระดับสูงสุดในรอบหลายเดือนในช่วงการซื้อขายล่าสุด และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ก็เห็นได้ว่าราคาน้ำมันในตลาดโลกหนุนสูงขึ้นจากความหวังที่จะมีอุปสงค์ชุดใหม่จากผู้นำเข้าชั้นนำของโลก

แหล่งข่าว Chinese fret over infecting elderly as holidays prompt COVID warnings โดย Reuters

COMMENTS

WORDPRESS: 0
DISQUS: