น้ำมันขยับลงในวันพฤหัสบดีหลังจากที่พุ่งขึ้นตลอดช่วงหลายวัน ผลักดันให้ดัชนีอ้างอิงแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 ปีเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับอุปทานที่ตึงตัว
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบเบรนต์ปิดย่อลง 6 เซนต์ ปิดที่ 88.38 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากแตะ 89.17 ดอลลาร์ในวันพุธ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2014 และยังเพิ่มขึ้น 13% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI ของสหรัฐสำหรับการส่งมอบเดือนก.พ.ร่วงลง 6 เซนต์ ปิดที่ 86.90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ทั้งนี้ WTI ยังเพิ่มขึ้น 15% จนถึงปีนี้ สัญญา WTI เดือนมีนาคมปิดที่ 85.55 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง 25 เซนต์
สต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 515,000 บาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่สต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 5.9 ล้านบาร์เรล ส่งผลให้สต็อกคงคลังทำระดับสูงสุดในรอบปีตามรายงานของกระทรวงพลังงานสหรัฐ
การค้าขายยังถูกครอบงำด้วยความกังวลด้านอุปทาน ตั้งแต่ปัญหาระยะสั้น ไปจนถึงการชะงักของอุปทานจากสมาชิกใน OPEC+ ในการบรรลุเป้าหมายการอุปทาน
IEA กล่าวว่าในขณะที่ตลาดน้ำมันอาจเกินดุลอย่างมีนัยสำคัญในไตรมาสแรกของปีนี้ แต่สินค้าคงเหลือน่าจะต่ำกว่าระดับก่อนเกิดโรคระบาด โดยหน่วยงานยังได้ปรับปรุงการคาดการณ์ความต้องการในปี 2565
แหล่งข่าว Crude prices edge lower, though supply concerns still dominant โดย Reuters
COMMENTS