เงินยูโรดีดตัวขึ้นในวันอังคารหลังจากร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 20 ปีและใกล้เคียงกับดอลลาร์สหรัฐเนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าวิกฤตพลังงานในภูมิภาคจะนำมาซึ่งภาวะถดถอย
โดยสกุลเงินเดียวแตะระดับ 1.00005 ดอลลาร์ต่อดอลลาร์ ซึ่งต่ำที่สุดนับตั้งแต่ธันวาคม 2002 หลังจากข้อมูลแสดงให้เห็นว่าความเชื่อมั่นของนักลงทุนชาวเยอรมันในเดือนกรกฎาคมลดลงต่ำกว่าระดับในช่วงเริ่มต้นของการระบาดใหญ่จากความกังวลด้านพลังงาน และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจากธนาคารกลางยุโรป
Mazen Issa นักยุทธศาสตร์ FX อาวุโสของ TD Securities ในนิวยอร์กกล่าวว่า สกุลเงินเดี่ยวอาจลดลงสู่ระดับ 85-90 เซ็นต์ต่อดอลลาร์สหรัฐ โดย Issa อ้างถึงอัตราการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดที่มากกว่า ECB และปัจจัยมหภาค
นอกจากนี้ ความกังวลว่ายุโรปอาจตกอยู่ในภาวะถดถอยได้เพิ่มขึ้นเนื่องจากท่อส่งก๊าซ Nord Stream 1 อยู่ระหว่างการบำรุงรักษาประจำปีในวันจันทร์ ขณะที่ ตลาดกังวลว่าการปิดโรงงานอาจยืดเยื้อออกไปเนื่องจากสงครามในยูเครน
สกุลเงินเดียวอยู่ที่ 1.0045 ดอลลาร์เด้งขึ้นจาก 1 ดอลลาร์ Neil Jones หัวหน้าฝ่ายขายสกุลเงินที่ Mizuho กล่าวว่าตลาดได้ ‘short’ สำหรับเงินยูโร โดยคาดว่าจะมีการพักตัวต่ำกว่าระดับที่เท่ากัน
Marc Chandler หัวหน้านักยุทธศาสตร์การตลาดของ Bannockburn Global Forex ในนิวยอร์กกล่าว “จุดกราฟที่สำคัญอาจลดลงเหลือ 0.96 หรือ 0.98 ดอลลาร์เป็นระดับเทคนิคที่สำคัญกว่า” ทั้งนี้ตัวเร่งปฏิกิริยาที่เป็นไปได้ที่สามารถผลักดันค่าเงินยูโรให้อ่อนค่าลงคือข้อมูลเงินเฟ้อที่คาดการณ์ไว้อย่างสูงในวันพุธ ซึ่งคาดว่าราคาผู้บริโภคของสหรัฐเพิ่มขึ้นในอัตรา 8.8% ต่อปีในเดือนมิถุนายน
ดอลลาร์ออสเตรเลียดีดตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปีจากความกังวลด้านการเติบโตทั่วโลก ขณะที่จีนกลับมาใช้มาตรการควบคุมโควิด-19
ออสซี่ขยับขึ้น 0.36% ที่ 0.6761 ดอลลาร์ หลังจากตกลงมาที่ 0.6712 ดอลลาร์ ซึ่งต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2020
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง 0.47% เมื่อเทียบกับเงินเยนของญี่ปุ่นที่ 136.78 หลังจากแตะระดับ 137.73 เมื่อวันจันทร์ ซึ่งเป็นระดับที่แข็งแกร่งที่สุดในรอบ 24 ปี ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ร่วง 0.07% มาอยู่ที่ 108.06
Bitcoin ลดลง 1.95% เป็น 19,560 ดอลลาร์
แหล่งข่าว Euro bounces from brink of parity with US dollar โดย Reuters
COMMENTS