SEARCH

ทองรีบาวด์ ทรงตัวต่ำกว่า1,900 ดอลลาร์จากความกังวลต่อเฟด

ทองคำร่วงหลังดอลลาร์แข็งค่าขึ้น พร้อมแนวโน้มดอกเบี้ยนโยบาย
Nasdaq100 กำลังเคลื่อนไหวเหมือนฟอร์มในปี 2001
TLI คาดไตรมาส 2/65 ผลงานดี ธุรกิจระยะยาวแกร่ง

Twenty kilogram gold and silver bricks sit at the ABC Refinery smelter in Sydney, New South Wales, Australia, on Thursday, July 2, 2020.

ราคาทองคำดีดตัวขึ้นในวันจันทร์ แต่ดอลลาร์ยังอยู่ทิศทางที่จะแข็งขึ้นจากความกังวลว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยนโยบายซึ่งกดดันให้ทองคำกลับไปอยู่บริเวณต่ำกว่า 1,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำพุ่งขึ้น 0.4% อยู่ที่ 1,872.96 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 6 มกราคมในเซสชั่นก่อนสัญญาฟิวเจอร์สทองคำสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.5% อยู่ที่ 1,886.00 ดอลลาร์

ราคาทองคำร่วงลง 2.5% ในวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังข้อมูลแสดงให้เห็นว่าการเติบโตของการจ้างงานในสหรัฐเร่งตัวขึ้นในเดือนก่อน ขณะที่อัตราการว่างงานแตะระดับต่ำสุดในรอบปี 53 ที่ครึ่ง 3.4%

“ในตอนแรกตลาดกำลังมองหาการลดการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายที่อาจจะมีขึ้นในไตรมาสที่ 3 ปี 2023 แต่หลังจากตัวเลข NFP ออกมาความหวังดังกล่าวอาจเลื่อนออกไปเป็นเดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคม 2023” กล่าว Christopher Wong นักยุทธศาสตร์ OCBC FX เสริมว่า “ตอนนี้ตลาดต่างคาดหวังว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยสูงสุด (ที่ราว 5%) ไว้นานขึ้น ซึ่งจะกดดันต่อราคาทองคำในระหว่างนี้”

ความเชื่อมั่นดังกล่าวทำให้ดัชนีดอลลาร์เพิ่มขึ้น 0.2% ซึ่งสร้างแรงกดดันแก่ทองคำ “เราเห็นราคาทองทำอยู่ระหว่าง 1,820-1,950 ดอลลาร์ แต่มองไปข้างหน้าหากมีการพลิกกลับ” Edward Meir นักวิเคราะห์ของ Marex เขียนไว้ในบันทึก

สปอตโลหะเงินขยับขึ้น 0.2% อยู่ที่ 22.39 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แพลตตินัมเคลื่อนไหวที่ 973.88 ดอลลาร์ และพัลลาเดียมเพิ่มขึ้น 0.2% อยู่ที่ 1,626.38 ดอลลาร์

แหล่งข่าว Gold rebounds but holds below $1,900/oz level on Fed fears, firm dollar โดย Reuters

COMMENTS

WORDPRESS: 0
DISQUS: