SEARCH

หุ้นและพันธบัตรขึ้น นักลงทุนมองข้ามผลการประชุมเฟด

ดอลลาร์ร่วงจากแนวโน้มเชิงบวกในจีน ยูโรแข็งจากเงินเฟ้อที่สูง
น้ำมันร่วง 5% หลัง IMF เผยแนวโน้มการเติบโตที่ชะลอลง
คาดการลงทุนจะไหลกลับเข้าสู่จีนจากความมั่นใจที่เพิ่มขึ้น

หุ้นและพันธบัตรทั่วโลกปิดบวกในวันพุธ (05/01/2023) จากมุมมองเชิงบวกที่เป็นไปอย่างระมัดระวังหลังจากช่วงปีใหม่

ดัชนี MSCI หุ้นทั่วโลกเพิ่มขึ้น 0.65% แต่ยังอยู่ทิศทางลดลงจากจุดสูงสุดก่อนนี้ หลังรายงานการประชุมของเฟดในเดือนธันวาคมที่แสดงความกังวลเกี่ยวกับ “ความเข้าใจผิด” ของตลาดเกี่ยวกับความมุ่งมั่นในการต่อสู้กับเงินเฟ้อ

นักวิเคราะห์ของ Citi อธิบายว่า รายงานดังกล่าว “ดูแข็งกร้าวอย่างสุภาพ” และคาดว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 50 จุด ในเดือนกุมภาพันธ์ และอัตราจะทำจุดสูงสุดระหว่างช่วง 5.25-5.5% จากระดับ 4.25-4.5% ในปัจจุบัน” นอกจากนี้ “เจ้าหน้าที่ของเฟดรู้สึกไม่สบายใจการกับประเมินราคาที่ต่ำเกินไปของตลาดสำหรับแนวทางนโยบายการเงิน และอาจส่งสัญญาณที่แข็งกร้าวมากขึ้นเพื่อผลักดันส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยให้ไปสู่เป้าหมาย”

ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 0.75% ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 0.4% และ Nasdaq Composite เพิ่มขึ้น 0.7%

ขณะที่รายงานว่างงานของสหรัฐที่ออกมาเมื่อวันพุธ (04/01/2023) ยังออกมาน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้สะท้อนถึงความตึงตัวของตลาดแรงงานและแน่นอนว่ามันช่วยเพิ่มช่องว่างในการกระชับนโยบายของเฟด

ดัชนี STOXX 600 ทั่วยุโรปพุ่งขึ้น 1.4% จากรายงานเงินเฟ้อของฝรั่งเศสที่ลดลง พันธบัตรรัฐบาลยูโรโซนขึ้นต่อเนื่อง พันธบัตรเยอรมนีอายุ 10 ปีลดลงราว 10 จุด
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรของสหรัฐอายุ 10 ปีลดลงเหลือ 3.679% และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 2 ปีลดลงเหลือ 4.3534%

ดัชนี MSCI หุ้นเอเชียแปซิฟิกยกเว้นญี่ปุ่นพุ่งขึ้น 1.8% เป็นวันที่ 3 ต่อเนื่อง หลังดัชนีลดลง 20% ในปีที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นการลดลงมากที่สุดตั้งแต่ปี 2008

Susannah Streeter นักวิเคราะห์อาวุโสด้านการลงทุนและการตลาดของ Hargreaves Lansdown กล่าวว่า “คำเตือนล่าสุดเกี่ยวกับผลกระทบของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่รุนแรงต่อเศรษฐกิจสหรัฐทำให้ผู้ค้ากังวลอีกครั้ง โดยราคาน้ำมันยังคงปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง

น้ำมันดิบสหรัฐลดลง 4.85% อยู่ที่ 73.2 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เบรนต์อยู่ที่ 78.07 ดอลลาร์ ลดลง 4.9% ในวันเดียวกัน
สปอตทองคำพุ่งแตะ 1,856.57 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายน

ดัชนีดอลลาร์ร่วงลง 0.45% เนื่องจากสกุลเงินสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น ดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้น และยูโรแข็งค่าขึ้นจากข้อมูลเงินเฟ้อของฝรั่งเศสและเยอรมันที่ออกมาดี สเตอร์ลิงซื้อขายล่าสุดที่ 1.20575 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 0.75% ขณะที่ยูโรเพิ่มขึ้น 0.54% อยู่ที่ 1.06050 ดอลลาร์ โดยปิดระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ที่ 1.0519 ดอลลาร์ เยนอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์ที่ 132.500 ต่อดอลลาร์

แหล่งข่าว Stocks, bonds jump as investors shrug off hawkish Fed minutes โดย Reuters

COMMENTS

WORDPRESS: 0
DISQUS: 0