ตลาดต่างตื่นตัวสำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยทั้งในยูโรโซนและสหรัฐอเมริกา หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ECB ส่งสัญญาณ hawkish มากขึ้น ขณะที่ในด้าน สหรัฐฯ รายงานการจ้างงานและรายได้แข็งแกร่งเกินคาด
ดัชนีหุ้นรายใหญ่ในวอลล์สตรีทเคลื่อนไหวแบบผสมตลอดเซสชั่นในวันจันทร์จากการรายงานรายได้รายไตรมาสแบบผสมจาก megacap อย่าง Amazon.com Inc และ Meta Platforms ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ยังคงที่ที่ 35,091.13 จุด ขณะที่ S&P 500 ลดลง 0.37% กลับไปที่ 4,483.87 จุด ดัชนี Nasdaq Composite ลดลง 0.58% กลับไปที่ 14,015.67 จุด
หุ้น Meta ร่วงลงมากกว่า 5% ทำให้ขาดทุนต่อเนื่องเป็นเซสชั่นที่ 3 หลังจากร่วงลงเป็นประวัติการณ์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Peloton พุ่งขึ้นกว่า 20% จากรายงานเกี่ยวกับผู้ซื้ออย่าง Amazon นักวิเคราะห์ของ JP Morgan กล่าวว่า “ตลาดไม่สามารถปรับตัวขึ้นจากข้อมูลจ้างงานที่แข็งแกร่ง เราเห็นความผันผวนที่เบาบางลง และคาดว่าเงินทุนจะไหลเข้าอย่างแข็งแกร่งจากนักลงทุนที่เป็นระบบ”
ในยุโรป หุ้นพุ่งขึ้นหลังจากการร่วงลงในรอบหลายสัปดาห์ ดัชนี STOXX 600 เพิ่มขึ้น 0.7% หลังจากร่วงลงมากกว่า 5% ในปีนี้หลังจากหุ้นเทคโนโลยีที่ลดลงอย่างรวดเร็วเนื่องจากแรงกดดันด้านเงินเฟ้อในวงกว้าง
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่เป็นหนึ่งในกลุ่มที่มีผลงานดีที่สุดสำหรับวันนี้ โดยเพิ่มขึ้น 1.7% หลังจากความคิดเห็นในเชิงบวกจากผู้นำเข้าสินค้าโภคภัณฑ์รายใหญ่ของจีนที่ผลักดันราคาโลหะให้สูงขึ้น ดัชนี FTSE ของสหราชอาณาจักรเพิ่มขึ้น 0.76% หลังจากผันผวนอย่างมากเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ดัชนีหุ้น MSCI โลกจบลงที่ 0.4%
บอนด์ยีลด์ยูโรโซนเพิ่มขึ้น โดยบอนด์ยีลด์อายุ 10 ปีของเยอรมนี เพิ่มขึ้น 2 จุดพื้นฐานเป็น 0.22% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่มกราคม 2019 บอนด์ยีลอายุ 10 ปีของอิตาลีเพิ่มขึ้น 5.5 bps มาอยู่ที่ 1.814% หลังจากแตะระดับสูงสุดใหม่ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2020 ที่ 1.901%
Martins Kazaks ผู้กำหนดนโยบายของ ECB ได้ปฏิเสธความคาดหวังของตลาดในการขึ้นอัตราดอกเบี้ยทันทีในเดือนกรกฎาคม และเผยว่าธนาคารอาจยุติโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจเร็วกว่าที่วางแผนไว้ แต่ไม่น่าจะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในทันที ขณะที่ Klaas Knot ประธานธนาคารกลางเนเธอร์แลนด์และสมาชิกสภาปกครองของ ECB กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่าเขาคาดว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในไตรมาสที่สี่ของปีนี้
รายงานการจ้างงานเดือนม.ค.ของสหรัฐเมื่อวันศุกร์เผยว่ารายได้ต่อชั่วโมงเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเป็น 5.7% จาก 4.9% ขณะที่การจ้างงานในเดือนก่อนเพิ่มขึ้นเป็น 709,000 ตำแหน่ง
เงินยูโรอ่อนค่าลง 0.1% หลังจากพุ่งขึ้น 2.7% ในสัปดาห์ที่แล้วจากความคาดหวังที่จะมีการ hawkish ดัชนีดอลลาร์สหรัฐขยับสูงขึ้น หลังจากร่วงลง 1.8% ในสัปดาห์ที่แล้ว
ตลาดคาดการณ์ว่าตัวเลขราคาผู้บริโภคของสหรัฐในเดือนมกราคมซึ่งจะเผยแพร่ในวันพฤหัสบดีนี้จะพุ่งสูงขึ้นและผลักให้อัตราเงินเฟ้อทำระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 1982 และอาจทำให้เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายถึง 50 จุดในเดือนมีนาคมนี้
แหล่งข่าว Meta weighs on U.S. shares, European stocks rise after rout โดย Reuters
COMMENTS